ราคาของ Ethereum โตขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนกรกฎาคม โดยเพิ่มขึ้น 50% จาก $225.5 เป็น $340 บน ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 5 ปี โดยได้แรงขับจาก DeFi และ ETH 2.0
DeFi และผลกระทบต่อ Ethereum blockchain
ในกลางเดือนมิถุนายน แพลตฟอร์ม DeFi Compound เริ่มต้นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “การทำ yield farming” จนทำให้ผู้ใช้ Ethereum ต่างแห่กันไปตามแพลตฟอร์ม DeFi ที่ให้ผลตอบแทนมากที่สุด
ตั้งแต่นั้นมาแพลตฟอร์ม DeFi ที่สำคัญหลายแห่งก็เกิดขึ้น โดยจากข้อมูลของ Defipulse.com พบว่า Aave , Balancer และ Curve Finance นั้นมีมูลค่าเงินที่ถูกล็อค $482 ล้าน 291 ล้านดอลลาร์และ 263 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ
ดังนั้น มูลค่ารวมที่ถูกล็อคในพื้นที่ DeFi จึงเพิ่มขึ้นเป็น 3.94 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าสามเท่านับตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน
DeFi ส่งผลกระทบในเชิงบวกต่อ Ethereum ด้วยเหตุผลหลายประการ แต่ปัจจัยที่โดดเด่นที่สุดคือการใช้ GAS ซึ่งเมื่อผู้ใช้Ethereum blockchain ทำธุรกรรมจำนวนมาก จำเป็นต้องใช้ ETH เพื่อชำระค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมหรือ “GAS”
จากรายงานของ Etherscan ปริมาณ GAS ที่ใช้ต่อวันเพิ่มขึ้นจนทำสถิติสูงสุดใหม่ที่สูงกว่า 76 ล้าน โดยข้อมูลแสดงให้เห็นว่าคสามต้องการสำหรับ ETH นั้นเพิ่มขึ้นควบคู่ไปกับกิจกรรมของผู้ใช้ของ Ethereum blockchain
Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ได้เตือนว่าการทำ yield farming นั้นไม่ยั่งยืน “คนเหล่านั้นก็ทำเพียงแค่พิมพ์เหรียญออกมาเพื่อล่อลวงผู้คนเข้าสู่ระบบนิเวศของพวกเขา ซึ่งมันเป็นเพียงระยะสั้น และเมื่อสิ่งล่อใจเหล่านั้นหายไป อัตราผลตอบแทนมันก็จะลดลงจนอาจเหลือ 0%”
ETH 2.0
ตัวเร่งที่ใหญ่ที่สุดอีกตัวก็คือ ETH 2.0 ที่จะเป็นการเปลี่ยนไปสู่ “proof-of-stake” หรือ POS
ซึ่งในที่สุดอัลกอริทึม PoS จะกำจัดคนขุดออกจาก Ethereum เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มความเร็วให้เครือข่าย โดย testnet สุดท้ายของ ETH 2.0 ซึ่งเรียกว่า Medalla คาดว่าจะเปิดตัวในเดือนสิงหาคมนี้
“ก่อนที่จะเปิดใช้งาน mainnet ได้ เราจำเป็นต้องมีระบบ testnets ที่จำลองเงื่อนไขของ mainnet ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ … Schlesi testnet เป็นหนึ่งในหลาย ๆ ขั้นตอนในทิศทางนั้น รวมถึง Witti testnet , Altona testnet และสุดท้าย Medalla testalla จะเป็นรุ่นสุดท้ายก่อนการเปิดตัว mainnet”
ในขณะเดียวกัน ETH futures ยังได้รับความสนใจจากนักเทรดโดยตัวเลขของ open interest ได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ในเดือนกรกฎาคม หลังจากมีการฟื้นตัวตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา และเมื่อใกล้ถึง ETH 2.0 ความต้องการใช้ ETH ก็จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการนำไปทำ staking และบรรจบกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของ DeFi ทั้งหมดจึงเป็นแนวโน้มในแง่ดีของราคา ETH
อ้างอิง : LINK