สรุปงาน Bitcoin Addict Online Meetup – “Crypto for mass adoption in Thailand”

ในงาน Bitcoin Addict Online Meet Up เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา มีการพูดคุยกันในหลายหัวข้อทั้งการวิเคราะห์สภาพตลาดที่ผ่านมา รวมถึงการนำ Crypto ไปใช้งานจริง และเรื่องราวการลงทุนที่น่าสนใจช่วงนี้

การวิเคราะห์ตลาดคริปโตครึ่งปีที่ผ่านมา

ในช่วงแรกของการพูดคุยโดยมีคุณ หาญ – Blockchain Review , คุณ Kit – Cryptomind

โดยทางคุณ หาญ กล่าวว่า

“ในประเทศไทย Bitcoin เคยถูกค้นหาบนกูเกิลแตะระดับสูงสุดในเดือนมีนาคม โดยผลจากการ Halving ขณะที่ปริมาณการซื้อขายบนเว็บเทรดของไทย ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกรกฎาคม พบว่า Bitkub ครองอันดับ 1 มาตลอด จนถึงปัจจุบัน ตามมาด้วย Satang Pro และ Huobi Thailand และ Bitazza

ขณะที่แค่ผ่านมาครึ่งปีมีการขอใบอนุญาตเว็บเทรดเพิ่มขึ้นมากมาย เช่น ZIPMEX และ UPBit Thialand ตามภาพด้านล่าง

รวมไปถึงครึ่งปีที่ผ่านมา ในส่วนของ Stablecoin และ CBDC ก็มีการเติบโตและพัฒนาไปอย่างมาก ทั้งโครงการอินทนนท์ ของธนาคารแห่งประเทศไทย และหยวนดิจิตอลของจีนที่กำลังมาแรงมากๆ

Mass Adoption Making Digital asset Uesful and Fun

ช่วงต่อไปนั้นมีคุณ Sanjay – CEO Cryptomind , คุณ Didi – Bitazza , ดร. วิชิต ซ้ายเกล้า – เจ้าของ Chitbeer , คุณ Toey – Pa.nn ได้มาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับการนำคริปโตไปใช้งานจริง

โดยทางด้านคุณ Didi – ซึ่งเป็น Chief Communications Officer จากทาง Bitazza (www.bitazza.com) ซึ่งเป็นนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker) กล่าวว่า ได้มีการเปิดตัว Bitazza พาร์ทเนอร์ เพื่อรับหน้าที่แลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลให้เป็นสกุลเงินบาทไทยได้ทันทีด้วยการร่วมกับพันธมิตรภายในโครงการ ซึ่งสิ่งนี้เป็นการทำให้เข้าถึงผู้คนได้มากที่สุด โดยมีทั้งร้านอาหารและขนมต่าง ๆ

ส่วนคุณ Toey – Pa.nn ซึ่งได้มาเข้าร่วมกับทางบิทาซซ่า พาร์ทเนอร์ เนื่องจากทำให้การชำระเงินด้วยคริปโตของลูกค้าเป็นไปอย่างง่ายดายมากขึ้น รวมถึงเร็วกว่าการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตดด้วยความช่วยเหลือของ Bitazza

ขณะที่ ดร. วิชิต ซ้ายเกล้า กล่าวว่า

อนาคตยังไงเราก็ต้องไปสู้ cashless society ส่วนความแตกต่างระหว่างเงินดิจิตอลกับ FIAT นั้นคือเงินดิจิตอลไม่สามารถถูกยึดได้เพราะไม่มีส่วนกลาง ขณะที่ FIAT นั้นมีความเสี่ยงที่เราอาจจะถูกยึดเงินได้ รวมถึง Supp;y ที่ไม่จำกัด และพิมพ์ได้เรื่อยๆ ซึ่งแตกต่างจากคริปโต

นอกจากนี้ดร. วิชิตยังตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติจากการที่ตัวเลขคนว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก แต่สินทรัพย์เช่นหุ้นกลับเติบโตขึ้นสวนทาง

ดร. วิชิต เริ่มรับชำระเงินจาก Chitbeer ด้วย Bitcoin มาตั้งแต่ 2012 ซึ่งในตอนนี้มูลค่าของเบียร์เหล่านั้นที่ลูกค้านำ Bitcoin ที่ขุดได้มาใช้กลายเป็นหลายหมื่นบาทไปแล้ว และอาจเป็นการกินเบียร์ที่แพงที่สุดในโลก

“Bitcoin อาจจะเป็นเทคโนโลยีและเครื่องมือที่จะเป็นทางออกให้กับปัญหาเงินล้นโลก หรือเงินทรยศคุณค่าอยู่ในขณะนี้” ดร. วิชิต กล่าว

ขณะที่คุณ Didi กล่าวว่า โครงการ Bitazza พาร์ทเนอร์ เป็นหนึ่งในความตั้งใจที่จะผลักดันให้เทคโนโลยีบล็อกเชนกลายเป็นที่รู้จักและเผยแพร่มากขึ้นในวงกว้าง และทำให้เข้าใจว่ามันจะทำให้ชีวิตของคนไทยง่ายขึ้นมาก

Introduction to one of the licence broker : Bitazza Giveaway

ช่วงต่อมามีโดยคุณ Sanjay – CEO Cryptomind , คุณ Art – CEO ของ Bitazza

โดยทางด้านคุณ Art ได้กล่าวว่าเป็นคนที่ชื่นชอบเรื่องการเงินมานานแล้ว เคยทำงานที่ WorldQuant เขียนซอฟแวร์ในการเทรดหุ้นที่อเมริกา ซึ่งหลังจากทำไปซักพักรู้สึกว่าเทคโนโลยีของ Quant นั้นเข้าถึงยาก และต้องเป็นคนที่ทุนค่อนข้างเยอะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนสถาบันหรือรายใหญ่

หลังจากนั้นก็ได้มาศึกษา Bitcoin ประมาณปี 2017 และเริ่มศึกษาว่าจะเริ่มลงทุนต้องทำยังไงบ้าง ซึ่งการเข้าถึงยังเป็นเรื่องยาก จึงคิดสร้างธุรกิจตัวนึงขึ้นมาเพื่อให้คนไทยเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และใช้งานง่าย

โดยตอนนี้ Bitazza (www.bitazza.com) ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนายหน้าสินทรัพย์ ดิจิทัล (Digital Asset Broker Licenses จากทาง ก.ล.ต. ซึ่งจะคอยส่งคำสั่งซื้อขายไปยังศูนย์ซื้อขายต่าง ๆ เพื่อการเข้าถึงสภาพคล่องในวงกว้าง รวมถึงยังรองรับการซื้อขายครั้งละมาก ๆ (หลายสิบล้านบาท) โดยไม่ต้องไปทยอยซื้อจากเว็บเทรดต่าง ๆ หลาย ๆ ที่ ด้วยบริการ OTC

นอกจากนี้ยังมีบริการการซื้อขายระหว่าง Crypto to Crypto มากขึ้น เช่น BTC-USDT และจะมีมากขึ้นในอนาคต รวมถึงสินทรัพย์ที่เกี่ยวกับ DeFi

การลงทุนที่น่าสนใจช่วงนี้

ช่วงที่น่าสนใจอีกช่วงคือการลงทุนในช่วงนี้ ที่ได้คุณริท จาก Bitcoin Addict , คุณ A – จาก Coinman , พี่ Bit – จากเพจ Bit investment , และจารเต่า(ผู้ชำนาญการซื้อเหรียญราคาหลุม)

โดยทางด้าน จารเต่ากล่าวยอมรับว่าช่วงนี้เหรียญ DeFi มีเยอะมากจนตามแทบไม่ทัน โดยตอนนี้กำลังจะเอา Band protocol เข้าไปใน uniswap คู่ BAND / ETH เพราะได้ดอกเยอะประมาณ 200% ต่อปี ส่วน yield farming ไม่ได้ทำ และเมื่อวานก็ได้ไปร่วมซื้อ NEAR มา รวมถึง Serum (SRM) , และก็กำลังเล็ง PLT , MTRG

ขณะที่คุณ A ได้เตือนว่าการทำ yield farming นั้นมีความเสี่ยงในส่วนของเงินต้น รวมถึง liquidity pool ที่ได้ดอกเบี้ยเยอะ ๆ ก็จะมีแค่เฉพาะคู่ที่มีความเสี่ยงในด้านราคา ซึ่งถ้าหากเป็นในส่วนของ Stablecoin ที่ความเสี่ยงไม่สูงเท่า ดอกเบี้ยก็จะได้ไม่เยอะ ส่วนผู้ที่ทำ yield farming ก็ต้องมีวินัย เมื่อได้เหรียญจากการฟาร์มมาแล้วก็ต้องเทขาย เพราะเราไมรู้ว่าราคาของมันจะมีค่าอีกนานแค่ไหน

นอกจากนี้ยังได้แนะนำให้คอยติดตามเหรียญที่ทำใกล้เคียงกัน หากเหรียญนึงฮิต อีกเหรียญนึงก็น่าจะฮิตตาม เช่น Link ขึ้น เราก็ไปหาเหรียญที่ทำลักษณะเดียวกันอย่างเช่น BAND หรือเหรียญอื่น ๆ

รวมถึงเหรียญที่พยายามรีแบรนด์ตัวเองเพื่อเกาะกระแส DeFi คล้ายกับช่วง ICO บูม ขณะที่เหรียญ Altcoin ที่ซื้อในช่วงนี้ก็มี Perlin (PERL) รวมถึง OGN , SOL และมี ICO ที่ชื่อว่า skale.network

ส่วนทางพี่ Bit ก็ได้ทำ liquidity pool ในส่วนของ Stablecoin ซึ่งก็ได้ไม่เยอะมากนัก แต่มันก็ดูปลอดภัยและมีความเสี่ยงน้อยกว่าเหรียญอื่น ๆ

สำหรับใครที่อยากดู LIVE ของงานแบบเต็ม ๆ รวมถึงการพูดคุยในช่วงอื่น ๆ สามารถดูได้ที่ด้านล่าง

สุดท้ายขอขอบคุณ Bitazza ที่มาเป็นสปอนเซอร์ให้กับงานในครั้งนี้

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin

Radius

ผู้เชี่ยวชาญการเขียนข่าว บทความ ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin , คริปโตเคอเรนซี่ และ Blockchain ทั้งในไทยและต่างประเทศ อัพเดทราคา มุมมองการลงทุน ใหม่ล่าสุดทุกวัน
ข่าวต่อไป