จำนวนธุรกรรมในเครือข่าย Ethereum เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในปี 2020 และตอนนี้ก็แทบจะเท่ากับระดับสูงสุดตลอดกาลในเดือนมกราคม 2018
ดังที่แสดงในกราฟด้านล่าง จำนวนธุรกรรมนั้นเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.23 ล้านต่อวัน
ขณะที่ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม Ethereum เฉลี่ย เพิ่มขึ้นสามเท่า จากที่เคยเท่ากับ 0.14 ดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม 2019 กลายมาเป็น 3 ดอลลาร์ในปัจจุบัน
เครือข่ายที่ใช้งาน Ethereum จะอยู่รอดจากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นได้หรือไม่?
เพื่อให้โอกาสของการวิเคราะห์ทำได้ดีขึ่นเราควรวิเคราะห์ว่าธุรกรรมประเภทใดที่เกิดขึ้นบ้าง ตัวอย่างเช่น Stablecoins มีแรงจูงใจน้อยกว่าที่จะระงับการใช้ในช่วงที่มีข้อจำกัดของเครือข่าย
ในทางกลับกัน การสลับเครือข่ายบนแอปพลิเคชัน DeFi เช่น Maker ( MKR ) และ Compound ( COMP ) ดูเหมือนจะไม่ค่อยชัดเจน
แพลตฟอร์ม smart contract ที่แข่งขันกันก็ยังมีข้อเสีย และยังมีระบบนิเวศที่เล็กกว่ามากตามรายงานของ Cointelegraph
ข้อมูลจาก Etherscan แสดงให้เห็นถึงการใช้งานแอปพลิเคชั่น Decentralized Finance (DeFi) ที่เพิ่มขึ้นบนเครือข่าย Ethereum แต่ตัวเลขเหล่านั้นจะยังอยู่ได้นานเพียงใดเมื่อพิจารณาจากระดับค่าธรรมเนียมในปัจจุบัน
ข้อมูลจาก DefiPulse แสดงให้เห็นว่า มูลค่ารวมที่ถูกล็อกใน DeFi เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าในช่วง 90 วันที่ผ่านมา ในขณะนี้เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจว่าธุรกรรม Ethereum เหล่านี้เกี่ยวข้องกับตัวเลขนี้มากแค่ไหน?
จากข้อมูล Etherscan ระบุว่า yearn.finance ( YFI ) มีธุรกรรมเฉลี่ยต่อวันที่ 3,400 ธุรกรรมในสัปดาห์ที่ผ่านมาโ ดยมีการโอนโทเค็น 15,700 รายการ
เมื่อพิจารณาจากราคาโทเค็น YFI ที่ 5,175 ดอลลาร์ในช่วงเวลานั้น การโอนเงินแต่ละครั้งมีมูลค่าเท่ากับ 23,900 ดอลลาร์โดยเฉลี่ย ซึ่งหมายความว่าการเพิ่มค่าธรรมเนียม 3 ดอลลาร์ไม่ใช่อุปสรรค
เพื่อให้แน่ใจเราควรวิเคราะห์กับ Synthetix Network Token ( SNX ) ซึ่งเป็นคู่แข่ง DeFi อีกรายหนึ่งใน 20 อันดับแรกของ Ethereum contract ที่มีการใช้งานมากที่สุด
ตามกราฟด้านบน SNX มีธรกรรมเฉลี่ย 2,800 รายการต่อวันในสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยมีการโอนโทเค็น 8.3 ล้านครั้ง และเมื่อพิจารณาจากราคา 4.70 ดอลลาร์ในช่วงเวลานั้น การโอนเงินแต่ละครั้งมีมูลค่าเฉลี่ยเท่ากับ 13,900 ดอลลาร์ นี่เป็นอีกข้อบ่งชี้ว่าไม่มีผลกระทบที่เกินจริงที่เกิดจากการเพิ่มค่าธรรมเนียมในเครือข่าย Ethereum
แล้ว Oracle ล่ะ?
Chainlink ( LINK ) เป็นโทเค็นที่ใหญ่ที่สุดในโซลูชัน Oracle และแม้ว่าจะสามารถใช้งานร่วมกันได้กับหลายเครือข่าย แต่มันก็ยังเป็นโทเค็น Ethereum ERC-20
โดยมีการใช้งานและทำธุรกรรมเพิ่มขึ้น 88% ในช่วงสองสัปดาห์ตามรายงานของ Cointelegraph
LINK มีธุรกรรมเฉลี่ย 35,000 รายการต่อวันในสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีการโอนโทเค็น 34 ล้านครั้ง เมื่อพิจารณาจากราคา 13.40 ดอลลาร์ในช่วงเวลานั้น การโอนเงินแต่ละครั้งมีมูลค่าเฉลี่ย 13,000 ดอลลาร์
การวิเคราะห์นี้เป็นอีกตัวบ่งชี้เชิงบวกว่า แม้ค่าธรรมเนียมเครือข่าย Ethereum จะเพิ่มขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่แอปพลิเคชั่น Oracle และ DeFi ที่สำคัญบางตัวก็ยังสามารถทนได้อย่างน้อยก็ในชั่วขณะหนึ่ง
ไม่ใช่ทุก smart contract ที่สามารถเติบโตได้ในระดับค่าธรรมเนียมปัจจุบัน
ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นของเครือข่าย Ethereum ได้เร่งการพัฒนา layer 2 ในแอปพลิเคชัน DeFi บางตัว
แม้ว่าผลกระทบโดยรวมของ Ethereum อาจเป็นไปในทางบวก เนื่องจากอาจทำให้ไม่สามารถโยกย้ายแอปพลิเคชันไปยังเครือข่ายของคู่แข่งได้ แต่ก็ไม่ได้สร้างภาพที่ดีสำหรับนักลงทุนและประชาชนทั่วไป
การพัฒนา Ethereum 2.0 อยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมากในการส่งมอบเครือข่ายที่สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก stablecoin, oracles, decentralized exchange และ DeFi
คำถามที่สำคัญที่สุดที่ต้องถามตอนนี้คือ ผู้ถือ Ether ( ETH ) ปัจจุบันและนักพัฒนาเครือข่ายจะปรับตัวให้เข้ากับข้อจำกัดในปัจจุบันได้หรือไม่?
คำตอบนี้อาจขึ้นอยู่กับสิ่งที่เครือข่าย cryptocurrency ที่แข่งขันกันจะนำเสนอออกมา ดังนั้นนอกเหนือจากการติดตามราคา Ether แล้วนักลงทุนที่ชาญฉลาดควรตรวจสอบกิจกรรมของเครือข่ายอย่างใกล้ชิดด้วย
อ้างอิง : LINK