รู้จัก 3AC
1- Three Arrows Capitals (3AC) เป็น Venture Capital ที่ก่อตั้งช่วงปี 2012 โดยมีการลงทุนอยู่ในตลาดเงินและตลาดทุนทั่วไป แต่เมื่อปี 2018 เป็นต้นมา 3AC มุ่งเน้นในการลงทุนด้าน Cryptocurrency เป็นหลัก ซึ่งมีทั้ง GBTC กองทุน Bitcoin ของ Grayscale, Blockchain Layer 1, CeFi, แพลตฟอร์มคริปโตฯ รวมถึงเกมบน Blockchain มากกว่า 50 ตัว
2- ในช่วงต้นปี 2021 3AC ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมี 4 เหรียญที่ทำผลงานได้โดดเด่นมากที่สุดคือ AXS, SOL, PERP และ DOT
- AXS เหรียญของ GameFi ชื่อ Axie Infinity ทำกำไร 30,000%
- SOL เหรียญของ Blockchain Solana ทำกำไร 15,000%
- PERP เหรียญของแพลตฟอร์ม Perpetual Protocol ทำกำไร 2,000%
- DOT เหรียญของ Blockchain Polkadot ทำกำไร 1,100%
และเหรียญอื่นๆอีกมากมาย ทำให้ในปี 2021 พอร์ตการลงทุนของ 3AC เติบโตมากกว่า 100 เท่า!!
3- สาเหตุที่ 3AC ได้กำไรมากมายขนาดนี้นอกจากฝีมือในการบริหารแล้ว 3AC มีกลยุทธ์ในการเลือกลงทุนในรอบ Seed Round, Follow-on Round, Series A และ Series B ซึ่งจะเป็นการระดุมรอบแรกๆของโปรเจคเพื่อนำเงินไปพัฒนา ทำให้ได้รับส่วนลดที่เยอะ (พูดง่ายๆคือได้ลงทุนในราคาที่ถูกกว่าราคาบนกระดานเทรด) แต่ก็ต้องแลกมากับความเสี่ยงที่สูงมากและมี Vesting Period เช่นกัน
4- Vesting Period คือการที่โปรเจคจะทยอยปลดเหรียญมาให้นักลงทุนเพื่อป้องกันการเทขายทันทีที่เหรียญเปิดให้ซื้อขายในตลาดรอง ระยะเวลามีทั้งทยอยแจกในจำนวนที่เท่ากันเป็นเวลา 3 ปีหรือมากกว่านั้น รวมถึง Cliff ที่หมายถึงช่วง 6 เดือนแรกจะไม่แจกแต่สะสมจำนวนเหรียญมาแจกทีเดียวหลังครบ 6 เดือนเป็นต้น
ทำให้แม้ภาพรวมกำไรของ 3AC จะดูดีมากเท่าไหร่ก็ตาม แต่ก็อาจจะเป็นกำไรชั่วคราวได้
พอร์ตดูดี แต่แค่กำไรชั่วคราว
5- เมื่อเจาะลึกเข้าไปดูเหรียญที่ 3AC ลงทุนนั้น มีการลงทุนใน Governance Token ของโปรเจค DeFi ต่างๆทั้งเหรียญใหญ่อย่าง UNI, AAVE, SNX, COMP และ YFI และเหรียญขนาดเล็กอย่าง FST, KNC, NRV, DHT, MTA, ROOK และ DODO ด้วย ซึ่งปัญหาของเหรียญเหล่านี้คือจะมีแรงเทขายจากการเพิ่มสภาพคล่องอยู่ตลอดเวลาเรียกว่า Toxic Liquidity
6- สาเหตุที่เหรียญกลุ่มนี้โดนเทขายเนื่องจากประโยชน์ของเหรียญเหล่านี้มีน้อยและ Supply ของเหรียญที่จะมีการแจกเรื่อยๆ ทำให้เหรียญถูกเพิ่มจำนวนอยู่ตลอด ดังนั้น 3AC แม้จะได้เปรียบเรื่องต้นทุนในตอนแรก แต่การมีระยะเวลาปลดเหรียญทำให้เมื่อถึงเวลาจริง ราคาขายที่ได้อาจจะไม่ได้ดีเท่าตอนแรกหรือขาดทุนได้ด้วยซ้ำ
7- นอกจากนี้ยังมีการลงทุนใน GBTC ซึ่งนอกจาก BTC จะติดลบมากกว่า 68% จากจุดสูงสุด มูลค่าของ GBTC ยังถูกกว่า BTC จริงถึง 34% ในขณะที่เขียน สาเหตุมาจากปัญหาเรื่องใบอนุญาตที่ยังไม่ชัดเจน การเปิดตัวของ Bitcoin ETF ในแคนาดาที่ถูกกฎหมายและสภาพคล่องของตลาดรองอย่าง Finra ที่รองรับการเทขายขนาดใหญ่ไม่ไหว สาเหตุเหล่านี้เป็นตัวกดดันทำให้ 3AC ขาดทุนหนักขึ้นไปอีก
เข้าสู่ตลาดหมี พอร์ต VC ก็ไม่รอด
8- สาเหตุที่ราคาเหรียญร่วงในช่วงนี้ เกิดจากเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงมากในรอบหลายสิบปี ทางธนาคารกลางสหรัฐฯ จึงไม่มีทางเลือกนอกจากขึ้นอัตราดอกเบี้ยและลดขนาด Balance Sheet ส่งผลให้เม็ดเงินไหลออกจากตลาดมหาศาล รวมทั้งเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างยูเครนและรัสเซียส่งผลให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นและคนถอนการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง สิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนการจุดชนวนให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมาอีก
9- Avalanche (AVAX) เป็นอีกหนึ่งเหรียญที่ 3AC ชื่นชอบมากถึงขั้น Su Zhu และ Kyle Davies เจ้าของ 3AC นำสัญลักษณ์สามเหลี่ยมสีแดงซึ่งเป็นโลโก้ของ AVAX มาขึ้นในชื่อ Twitter และช่วงปลายปี 2021 Su Zhu ประกาศโจมตี Ethereum (ETH) ว่าค่าธรรมเนียมสูงและช้า (แต่มีรายงานว่า 3AC แอบซื้อ ETH หลังจากราคาร่วงในครั้งนี้) พร้อมทั้งร่วมลงทุนใน Avalanche จำนวน 260 ล้านดอลล่าร์ กับ Polychain VC ชื่อดัง และอีก 200 ล้านดอลล่าร์ ร่วมกับ Blizzard ในการพัฒนา NFT และ Gaming บนนี้อีกด้วย ซึ่งปัจจุบัน AVAX ราคาติดลบ 87% จากจุดสูงสุดทำให้ 3AC ก็ได้รับผลกระทบมากเช่นกัน
Terra ตัวจุดชนวนความหายนะ
10- การล่มสลายของ Terra มีการคาดการณ์ว่ามีการวางแผนมาแล้วเนื่องจากใช้ช่วงตลาดขาลงและ UST กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนการเพิ่มสภาพคล่องใน Curve แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน Stablecoin ที่ใหญ่ที่สุด โจมตีให้ UST หลุดต่ำกว่า 1 ดอลลาร์และสุดท้ายก็ไม่สามารถรักษาราคาได้ ทำให้ทั้ง UST และ Luna ซึ่งเป็นเหรียญที่ทำงานคู่กันราคาตก 99.2% และ 100% ในเวลาต่อมา
11- 3AC ขาดทุนจากเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างมากเพราะลงทุนมากกว่า 200 ล้านดอลลาร์ ในการซื้อ Luna จากการระดุมทุนของ Luna Foundation Guard และในช่วงที่ราคา UST กำลังหลุด Peg นั้น 3AC มีการซื้อ Luna เพิ่มเพื่อช่วยพยุงราคา UST จนมีคนสังเกตว่า 3AC มี LUNA อยู่ 10.9 ล้าน LUNA มูลค่า 560 ล้านดอลลาร์ ในตอนนั้น ปัจจุบันมูลค่าเหลือเพียง 660 ดอลลาร์เท่านั้น เรียกว่าขาดทุนเกือบ 100%
ความไม่แน่นอนของการอัพเกรด The Merge ทำ 3AC ยิ่งเจ็บหนัก
นอกจากเหตุการณ์ของ Terra แล้ว เหตุการณ์เลื่อน Upgrade ของ Ethereum ยังส่งผลกระทบกับ 3AC อีกเช่นกัน
12- ช่วงต้นเดือนมิถุนายน Alameda กองทุนของ FTX Exchange ทำการเทขาย 50,615 stETH มูลค่าประมาณ 91 ล้านดอลลาร์เพื่อแปลงเป็น ETH ด้วยจำนวนเงินก้อนใหญ่ขนาดนี้ส่งผลกระทบให้อัตราแลกเปลี่ยนของ stETH และ ETH เกิดความไม่สมดุลกันถึงขนาดว่า stETH มีราคาต่ำกว่า ETH ถึง 6% สาเหตุที่เทนั้นยังไม่แน่นอนแต่มีคนคาดเดาว่า Alameda รู้วงในเรื่องการเลื่อน The Merge ซึ่งเป็นอัพเกรดครั้งใหญ่ของ Ethereum จึงเทขายก่อน ปัจจุบันผ่านมากว่า 2 อาทิตย์แล้ว ราคาก็ยังไม่กลับไปที่เดิม
13- stETH นั้นเป็น Liquid Staking Derivative หรือสัญญาตัวแทนการฝาก ETH ในแพลตฟอร์ม Lido โดย Lido จะนำ ETH ไปฝากใน Beacon Chain เพื่อรับ Staking Rewards และให้ stETH เป็นเหมือนสัญญาในการฝาก โดยจะแลกคืนในอัตรา 1:1 ได้เมื่อเข้าสู่ช่วง Shard Chain หากใครรีบก็สามารถไปขายในตลาดรองอย่าง Curve ซึ่งราคาเป็นไปตามกลไกตลาดทั้งสิ้น ซึ่งในตอนนี้ stETH ถูกเทขายอย่างหนัก
14- 3AC เองก็มีลงทุนใน stETH เช่นเดียวกัน จากการสืบประวัติการลงทุนของ 3AC พบว่าได้เทขาย stETH มูลค่า 40 ล้านดอลลาร์ไปก่อนหน้านี้
กู้มาก็ต้องใช้คืน
15- 3AC ได้กู้ Stablecoin ใน Aave มูลค่า 264 ล้านดอลลาร์ และกู้ใน Conpound อีก 35 ล้านดอลลาร์ จากที่เข้าไปดูกระเป๋า Wallet Address ของ 3AC พบว่าตอนนี้ปิดหนี้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งยังมั่นใจมากไม่ได้เพราะอาจจะกู้จากที่อื่นมาปิดหนี้ตรงนี้อีกทอดหนึ่งก็ได้เช่นกัน
16- ข่าวร้ายยังไม่หมดเพียงแค่นั้น ในช่วงเวลาเดียวกัน BitMEX Exchange ประกาศล้างสถานะการกู้ของ 3AC มูลค่า 6 ล้านดอลลาร์จากการที่ 3AC ไม่สามารถหาเงินมาเติมเพื่อคงสถานะการกู้ไว้ได้ นอกจากนี้ FTX และ Deribit ก็ล้างสถานะการกู้ของ 3AC ในแพลฟตอร์มเช่นกันโดยกล่าวเสริมว่าเป็นสถานะที่ไม่ใหญ่มากจึงไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไร
17- แต่ข่าวร้ายที่สุดคือ 3AC กู้ยืมเงินจาก BlockFi อย่างน้อย 400 ล้านดอลลาร์ซึ่งถ้า 3AC ไม่หาเงินมาเติมเพื่อเพิ่มหลักค้ำประกันอาจจะโดนบังคับขายสินทรัพย์และเสี่ยงต่อการล้มละลายได้ ในช่วงเวลาต่อมาไม่กี่วันก็มีการรายงานว่า BlockFi บังคับขายเรียบร้อยแล้ว
บทสรุป
18- ในตอนนี้ 3AC มีสถานะทางการเงินที่แย่ถึงขั้นวิกฤต เราได้เห็นการเชื่อมั่นที่มากเกินไปจนไม่บริหารความเสี่ยงและกระจายความเสี่ยงให้ดีพอจึงทำให้เกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้น ล่าสุดมีข่าวจาก Wall Street Journal ประกาศว่า 3AC กำลังประสานงานด้านกฎหมายและที่ปรึกษาด้านการเงินในการช่วยระดมทุนหาเงินช่วยเหลือจากนักลงทุนและบริษัทต่างๆอยู่
เรื่องนี้จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า 3AC จะประกาศล้มละลายและจบลงตรงนี้เหลือเพียงตำนาน หรือว่ามีคนเชื่อมั่นในตัวทั้งสองคนแล้วให้เงินช่วยเหลือมาลงทุนต่อ
ยังไงก็ขอให้ทุกคนเก็บวิกฤตในครั้งนี้ไว้เป็นบทเรียนว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ อย่า All in หรือรักเหรียญไหนมากไปนะครับ
WAGMI 💪💪
เขียนบทความโดย คุณอ๊อค พริษฐ์ บุญเลื่อน Senior Analyst at Cryptomind Advisory
เรียบเรียงโดย ทีมงาน Bitcoin Addict Thailand
ภาพ LINK
