DeFi lending protocols ดึงดูดเงินหลายพันล้านดอลลาร์ในการจัดหา liquidity โดยให้ผลตอบแทนมหาศาล แต่มันยังคงต้องการตัวเลือกการให้กู้ยืมแบบ Fix rate ที่มากขึ้นตามที่นักวิจัยของ Messari กล่าว
มีโปรโตคอลจำนวนมากรวมถึง Yield Protocol, UMA Protocol และ Mainframe ในการให้กู้ยืมแบบ Fix rate และตลาดการกู้ยืมสำหรับ crypto collateral
ตามที่นักวิจัยของ Messari Jack Purdy ระบุว่าการกู้ยืมแบบ Fix rate จะให้ความมั่นใจสำหรับผู้ให้กู้และผู้กู้ที่ต้องการคาดการณ์ต้นทุนและผลตอบแทนจากเงินทุนอย่างแม่นยำ
โดยมีการอ้างถึง yield curves ซึ่งใช้ในการวางแผนอัตราดอกเบี้ยตามวันครบกำหนดที่แตกต่างกัน โดยเขาเสริมว่าเส้นโค้งที่ชันขึ้น หมายความว่าผู้ให้กู้ต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้นเพื่อชดเชยการ lock เงินทุน และเส้นโค้งที่แบนลงแสดงว่าผู้ให้กู้พอใจกับผลตอบแทนที่ต่ำกว่า เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตในอนาคตไม่สดใส
ตลาดการเงินที่ Stable และสามารถคาดการณ์ได้มีความสำคัญต่อการวางแผนในอนาคตในการคำนวณผลตอบแทนและการวัดความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะยาว โดยนักวิจัยยังกล่าวถึงการผกผันของอัตราผลตอบแทน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อนักลงทุนเต็มใจที่จะล็อกอัตราดอกเบี้ยระยะยาวที่ต่ำ เนื่องจากคาดว่าจะมีการชะลอตัวที่รุนแรงมากขึ้น
ในการเงินแบบดั้งเดิม สิ่งนี้นำไปสู่การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง และ indicator นี้ก็สามารถใช้เพื่อทำนายภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession)ได้
การย้ายที่ไปเรื่อย ๆ ของ DeFi farmers จากโปรโตคอลหนึ่งไปยังโปรโตคอลหนึ่ง เพื่อค้นหาที่ ๆ ให้ผลตอบแทนที่รวดเร็ว ส่งผลให้โทเค็น DeFi ถูกปั๊มราคาและเททิ้งอย่างรวดเร็ว และทำให้ค่าธรรมเนียมในเครือข่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้เกิดความไม่ยั่งยืนสำหรับการลงทุนและการวางแผนทางการเงินในระยะยาว
นักวิจัยได้เน้นย้ำถึงโปรโตคอล DeFi สองตัวที่ใช้วิธีการแบบ fix ในการยืมและให้กู้ยืม crypto รวมถึง Yield Protocol ซึ่งเริ่มใช้งานจริงในวันที่ 20 ตุลาคม โดยแพลตฟอร์มนี้ได้สร้างโทเค็นประเภทใหม่ที่เรียกว่า ‘fyTokens’ (ผลตอบแทนคงที่) โดยรายแรกจะเป็น fyDai เพื่อเปิดใช้การ fix ระยะเวลาและอัตราการยืม / ให้ยืมโดยใช้ Stablecoin ของ MakerDAO
สุดท้ายนักวิจัยสรุปว่า การปล่อยกู้และการกู้ยืมในอัตราแบบ Fix rate มากขึ้น จะเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เปิดใช้งานโดยโลกแห่ง DeFi ที่ผสมผสานกับเครื่องมือทางการเงินทุกประเภทที่เราคุ้นเคยอย่างมีเอกลักษณ์
อ้างอิง : LINK