การเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่มันจะเป็นอันตรายหรือจะมาเป็นตัวช่วย Bitcoin (BTC) กันแน่ ? และมันจะเข้ามามีบทบาทในโลกดิจิทัลนี้หรือไม่?
นับตั้งแต่ที่ Facebook ประกาศแผนการสร้างสกุลเงินดิจิทัลที่เรียกว่า Libra ธนาคารกลางต่าง ๆ ก็ได้มีความพยายามที่จะตอบโต้ด้วยการประดิษฐ์ CBDC ของตนเอง
ในขณะที่ Libra กำลังเผชิญกับปัญหาด้านกฎระเบียบ อีกด้านหนึ่งก็มีรายงานจาก BIS ระบุว่ากว่า 80% ของธนาคารกลางของโลกกำลังพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC)
แต่ความคิดและจุดประสงค์ของ CBDC นั้นแตกต่างกันโดยพื้นฐานจากทุกสิ่งที่ Bitcoin เป็น ดังนั้นชุมชน Crypto จึงพยายามคาดเดาถึงผลที่เป็นไปได้ต่อ Bitcoin ว่าสกุลเงินดิจิทัลที่รัฐบาลเป็นเจ้าของจะส่งผลเสียต่อบทบาทของ BTC ในโลกออนไลน์หรือไม่ หรือจะเป็นการสร้างช่องทางการยอมรับที่ยิ่งใหญ่
สถานการณ์ที่ 1 : CBDC ไม่ดีสำหรับ Bitcoin
CBDC จะเป็นตัวแทนของการชำระเงินสดที่เราใช้กันทุกวัน แต่จะเป็นแบบดิจิทัลเท่านั้น แต่ก็ยังมีปัจจัยที่ไม่อาจระบุได้จำนวนมากเกี่ยวกับการพัฒนาของพวกเขา เช่น ประเทศใดจะเป็นอันดับแรก , พวกเขาจะใช้เทคโนโลยีอะไร และ CBDC จะใช้สำหรับการชำระเงินของรายย่อยหรือไม่?
คำถามเหล่านี้จะได้รับคำตอบในที่สุด อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่กลัวว่าการเปิดตัว CBDC จะทำให้รัฐบาลสามารถควบคุม ติดตาม อนุมัติ หรือระงับธุรกรรมการชำระเงินในอนาคตทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อกำจัดกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย เช่น การฟอกเงิน
ในทางกลับกัน ก็มีความกังวลเกิดขึ้นภายในชุมชนว่าการเปิดตัว CBDC อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นี้ จะส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมและ Bitcoin
Changpeng Zhao (CZ) ซีอีโอของ Binance ได้คาดการณ์ว่า CBDC ที่ออกแบบมาอย่างดีอาจ “กลายเป็นภัยคุกคาม” สำหรับสกุลเงินดิจิทัล โดยเขาเน้นว่าสกุลเงินดังกล่าวส่วนใหญ่จะมีความ centralized สูงมาก และจะไม่ให้อิสระเช่นเดียวกับ Bitcoin
ดังนั้นรัฐบาลโลกจะผลักดันสิ่งประดิษฐ์ของตนเองต่อไป ในขณะที่ก็มีแนวโน้มที่จะลดบทบาทของบางสิ่งที่เป็น decentralized เช่น BTC
เอกสาร whitepaper ของ Bitcoin อธิบายว่าตนนั้นเป็น “electronic peer-to-peer cash system” อย่างไรก็ตาม การแข่งขันมากมายที่ได้รับการสนับสนุนจากประเทศมหาอำนาจของโลกอาจลดบทบาทสิ่งเหล่านี้ลงได้ และอาจเป็นอันตรายอย่างยิ่งหาก CBDC มีการใช้งานธุรกรรมที่ถูกกว่าและเร็วกว่า BTC
นอกจากนี้ มูลค่าของมันก็จะไม่ผันผวนมากเท่ากับ Bitcoin นี่อาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ผู้คนจะนิยม ส่ง หรือ รับ สกุลเงินที่จะไม่สูญเสียมูลค่าใด ๆ เมื่อธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์
สถานการณ์ที่ 2 : CBDC ช่วย Bitcoin เป็นเครื่องมือการชำระเงิน
ในทางกลับกัน มีคำกล่าวว่าเมื่อ CBDC มาถึง จะเป็นการเปิดประตูไปสู่ Bitcoin ได้ โดย Grayscale Investment ผู้จัดการสกุลเงินดิจิทัลรายใหญ่โต้แย้งว่า เมื่อมีการเปิดตัว CBDC อาจเป็นการ “เน้นบทบาทของ Bitcoin ในเศรษฐกิจดิจิทัลทั่วโลก”
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้คนจะต้องทำความคุ้นเคยกับโครงสร้างพื้นฐานของการชำระเงินแบบดิจิทัล และหากผู้คนมีการศึกษาหาความรู้ในเรื่องนี้ ก็จะสามารถพบความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ
“Bitcoin ไม่ได้มีความพิเศษเพียงเพราะมันเป็นดิจิทัล แต่เป็นเพราะ Bitcoin เป็นสกุลเงินที่หายาก และเปิดกว้างให้แก่ผู้ใช้งานทุกคน”
สถานการณ์ที่ 3 : CBDC ช่วย Bitcoin ในฐานะ Store Of Value
หากสมมติว่าสถานการณ์ที่ 1 เกิดขึ้นจริง และ Bitcoin หยุดให้บริการในการเป็น electronic peer-to-peer cash system แต่ก็ไม่จำเป็นต้องหมายความว่ามันจะไม่มีคุณค่าต่อสังคมอีกต่อไป
เนื่องจากแทนที่จะถูกใช้ในการโอนเงินจากที่แห่งหนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง BTC อาจกลายเป็นสิ่งที่คนอื่น ๆ ถกเถียงกันมาหลายปีนั่นคือการเป็น Store Of Value
เนื่องจากท้ายที่สุดแล้ว Bitcoin ก็มีความคล้ายคลึงกันหลายประการกับ Store Of Value ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดเช่น ทองคำ ยกตัวอย่างเช่นความขาดแคลน และประสิทธิภาพราคาของสินทรัพย์ทั้งสองมีความคล้ายคลึงกัน โดยมีวิกฤตการเงินและ COVID-19 ช่วยเร่งความสัมพันธ์ดังกล่าวให้เพิ่มขึ้น
แม้แต่ Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐก็เปรียบเทียบสินทรัพย์ทั้งสองและตั้งข้อสังเกตว่า ทั้งสองนั้นเป็นรูปแบบการเก็งกำไรของ Store Of Value
ขณะที่ Fidelity Digital Asset ก็ได้กล่าวในรายงานที่รวบรวมไว้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยบริษัทได้ตั้งชื่อว่า Bitcoin เป็น “store of value ที่สร้างแรงบันดาลใจ”
ดังนั้นหาก BTC ล้มเหลวในฐานะตัวแทนของการชำระเงินออนไลน์เนื่องจากการเข้ามาของ CBDC แต่มันก็สามารถกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ได้ และอาจมีบทบาทสำคัญยิ่งกว่าในโลก (ดิจิทัล) ในปัจจุบัน
อ้างอิง : LINK