Three Arrows Capital (3AC) โดมิโน่ตัวแรก หลังการล่มสลายของ Terra (LUNA)
Three Arrows Capital (3AC) เป็น 1 ใน 5 Hedge Fund ยักษ์ใหญ่ของโลกคริปโต ก่อตั้งโดย Su Zhu และ Kyle Davies ซึ่งทั้งคู่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม หลังเรียนจบมหาวิทยาลัย Kyle ได้เห็นโอกาสใน Emerging Market หรือตลาดเกิดใหม่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น จีน, อินเดีย, บราซิลหรือรัสเซีย จึงได้ชวน Su มาเป็นพาร์ทเนอร์ก่อนที่จะออกมาทำ Three Arrow Capital ด้วยกัน
3AC เป็นกองทุนที่มีกลยุทธ์แตกต่างไปจากกองทุนอื่น พวกเขามักจะเข้าไปลงทุนก็ต่อเมื่อตลาดเกิดความผันผวนมาก ๆ จากเหตุการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งในอินเดีย, บราซิลหรือการคว่ำบาตรในรัสเซีย ซึ่งในช่วงแรกทั้ง 2 คนก็ถือว่าทำได้ดี เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จเลยทีเดียว
จน 3AC เริ่มเข้ามาลงทุนในโลกคริปโตฯ ก็ถือว่าทำได้ดีมากๆ จนประสบความสำเร็จอีกเช่นกัน โดยสไตล์การลงทุนของ 3AC คือลงทุนใน round แรก ๆ ของ project ต่าง ๆ พูดง่าย ๆ คือเป็น early investor ที่ได้ลงทุนในรอบแรก ไม่ว่าจะเป็นรอบ seed, private, strategic ทำให้ 3AC ได้ราคาเหรียญที่ถูกมาก เหรียญที่ถือมี upside หรือโอกาสเติบโตสูง แต่ก็แลกมากับความเสี่ยงที่สูงมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเหรียญที่ลงทุนติดล็อคยาว 1-4 ปี ทำให้ไม่มีสภาพคล่องและไม่สามารถ Take Profit หรือขายทำกำไรได้ ตัวอย่างโปรเจคที่ 3AC เลือกลงทุน เช่น การลง ICO ของ AAVE, Venture Round ของ DODO และ MINA, Funding Round ของ Avalanche, Near และ Lido, Series A ของ Balancer และ Series B ของ dYdX
ในอีกกลยุทธ์นึงที่ 3AC ชอบใช้ คือการ Overleveraged หรือการลงทุนที่เกินตัว พูดง่าย ๆ ก็คือการกู้เงินมาลงทุน จากที่ผ่านมาเราจะเห็นว่าถ้า 3AC ชอบเหรียญไหน พวกเขามักจะไม่ถือมันไว้เฉย ๆ อย่างเช่น ETH สิ่งที่ 3AC เลือกทำคือนำ ETH ที่มีไปค้ำประกันตาม Lending Protocol ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น BlockFi, AAVE, Lido หรือ Deribit และกู้เป็น Stablecoin ออกมา แล้วนำไปลงทุนต่อ ซึ่งในช่วงที่ตลาดเป็นขาขึ้น สินทรัพย์ที่ค้ำประกันก็มีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อย ๆ การใช้กลยุทธ์นี้ก็ถือว่าไม่เลว และค่อนข้างฉลาดเลยทีเดียว
แต่เมื่อตลาดขาลงมาถึง พวกเขาเริ่มสูญเสียเงินไปมากกว่า 200 ล้านดอลลาร์หรือกว่า 7 พันล้านบาท ไปกับการถือเหรียญ Luna ในช่วงที่ Terra ล่มสลาย เพราะเมื่อราคาของเหรียญต่างๆลงไปเรื่อย ๆ ทำให้สินทรัพย์ที่ 3AC ถือถูก Liquidate หรือบังคับให้ขาย เป็นจำนวนมาก จนเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมาพวกเขาได้ให้สัมภาษณ์กับ Wall Street Journal ว่าพวกเขาจะหาทางแก้ไม่ว่าจะเป็นการขายสินทรัพย์ที่มีหรือขอความช่วยเหลือจากบริษัทต่าง ๆ
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า Three Arrows Capital จะสามารถรอดจากวิกฤติครั้งนี้ได้หรือไม่และข้อคิดที่เราได้คือการ Overleveraged นั้นมีความเสี่ยงสูงมาก เป็นเหมือนกับดาบสองคม ในช่วงที่ตลาดขาขึ้นก็ทำให้ได้ผลตอบแทนเยอะ มองไปทางไหนก็มีแต่กำไร แต่พอเป็นตลาดขาลง ถ้าบริหารพอร์ตไม่ดี ก็อาจจะโดน Liquidate บังคับขายสัญญาจนทำให้ขาดทุนได้