Decentralized finance (DeFi) กำลังได้รับความนิยมในอุตสาหกรรม cryptocurrency อยู่ในขณะนี้ จากการพัฒนาและแนวโน้มที่เห็นต่าง ๆ รวมถึงการมาของ governance tokens และ yield farming
และการเพิ่มขึ้นของ DeFi ก็ตามมาด้วยการวิจารณ์จากผู้ที่อยู่ในตลาดบางรายที่อ้างว่ามันจะกลายเป็นฟองสบู่ตัวต่อไปในพื้นที่ cryptocurrency เหมือนกันฟองสบู่ ICO 2017 ในช่วงที่ bitcoin เข้าถึงใกล้ 20,000 ดอลลาร์
DeFi นั้นเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2017 เมื่อ decentralized exchanges และ lending protocol เริ่มเกิดขึ้นใน Ethereum blockchain ขณะที่ในเครือข่าย Lightning ของ Bitcoin ก็มีโครงการ decentralized finance เช่นกัน และมีส่วนทำให้มูลค่ารวมถูกล็อคใน DeFi ซึ่งตามข้อมูลของ DeFiPulse อยู่ที่ 2.8 พันล้านดอลลาร์
จนกระทั่งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2019 DeFi มีมูลค่ารวมที่ถูกล็อกนั้นเกิน 500,000 ดอลลาร์ และภายในเดือนกุมภาพันธ์ของปีนี้ก็มีมูลค่ามากกว่า $1 ล้าน และเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา การเติบโตนี้เป็นการยืนยันของฟองสบู่อย่างแน่นอน แต่ก็มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา
มีความแตกต่างที่สำคัญที่เราต้องชี้ให้เห็น ในการเปรียบเทียบ hype ที่อยู่เบื้องหลัง ICO และ hype ที่อยู่เบื้องหลัง decentralized finance
ICO ถูกสร้างขึ้นบนคำสัญญา
ทุกคนที่อยู่ช่วงฟองสบู่ ICO ในปี 2017 ต่างรู้ดีว่าโครงการทุกโครงการสามารถระดมทุนได้มากมายตราบใดที่สัญญาว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้กลับไป ในขณะที่ก็มีโครงการที่ถูกกฎหมายบางโครงการที่มาระดมทุนผ่านทาง ICO เพื่อหลีกเลี่ยงการเสนอขาย initial public offering (IPO) ที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด
ICO ส่วนใหญ่สามารถระดมทุนจากนักลงทุนรายย่อยได้หลายล้านคน แม้จะมีเพียงแค่ whitepaper และยังไม่มีแพลตฟอร์มใด ๆ ซึ่งบางโครงการนั้นไม่จำเป็นต้องอยู่บน blockchain ด้วยซ้ำ
ยกตัวอย่างโครงการที่ชื่อว่า Useless Ethereum Token ที่ระดมทุนได้ถึง 300,000 ดอลลาร์จากนักลงทุน ซึ่งโทเค็นของมันนั้นก็ตามชื่อโครงการมันเลย คือ Useless หรือ “ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งสิ้น”
Useless Ethereum Token เริ่มซื้อขายที่ประมาณ $0.01 ต่อโทเค็น และไปถึงจุดสูงสุดที่มูลค่ามากกว่า $0.15
สิ่งนี้เป็นเครื่องยืนยันว่า ในช่วงฟองสบู่ ICO นักลงทุนซื้อโทเค็นเหล่านี้เพื่อรอขายในราคาที่สูงกว่าเพียงเท่านั้น และเป็นการซื้อโดยไม่ได้วางแผนหรือศึกษาอะไรใด ๆ เพียงแค่ต้องการขายในราคาที่สูงขึ้นอย่างเดียว
กรณีการใช้งาน Decentralized Finance
ขณะที่กรณีการใช้งานในพื้นที่ของ Decentralized Finance เช่น Compound ที่ช่วยให้ผู้ใช้ ยืมโทเค็นเพื่อรับดอกเบี้ยจากการถือครอง โดยอัตราดอกเบี้ยของ USDC และ USDT อยู่ระหว่าง 1.5% ถึง 1.6% และสำหรับ DAI นั้นอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 5.6%
อาจมีการโต้แย้งว่าการเติบโตของ DeFi นั้นได้รับความช่วยเหลือจากแพลตฟอร์มการซื้อขายแบบ centralized เช่น OKEx ที่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานั้นมีการลิสต์โทเค็นที่เกี่ยวข้องกับ DeFi เช่น COMP ซึ่งช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาดและทำให้ผู้ใช้สามารถลงทุนโทเค็นเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ยังมี Celo Gold ( CELO ) และ DMM Governance Token ( DMG ) ซึ่งเป็น utility และ governance asset สำหรับชุมชน Celo มีจุดประสงค์เพื่อสร้างระบบการเงินทั่วโลกและให้บริการทางการเงินแก่ผู้คนทั่วโลกที่อาจไม่มีบัญชีธนาคาร ในทางกลับกัน DMG ก็เสนอบริการการให้กู้ยืมแบบ onchain-to-offchain โดยให้บริการสินเชื่อแก่ผู้ใช้ในรูปแบบของ physical mortgages
การลิสต์สินทรัพย์ Crypto เหล่านี้ ช่วยให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องใช้งาน decentralized exchange เพื่อเข้าถึงโปรโตคอล DeFi และรับดอกเบี้ย ยิ่งไปกว่านั้น cryptocurrency wallets ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มเหล่านี้ได้ก็มีการเติบโตขึ้นด้วยเช่นกัน
โครงการที่ดีจะเกิดขึ้น
ข้อสรุปที่เราสามารถพูดได้จากการเติบโตของ DeFi คือโครงการที่ดีกำลังจะเกิดขึ้น แม้แต่ฟอง ICO ก็นำไปสู่การสร้างโครงการที่ดี ตัวอย่างเช่น Brave browser ที่ระดมเงินทุนผ่าน ICO ผ่านกการขาย Basic Attention Token (BAT) ให้กับนักลงทุน โดยเมื่อเดือนที่แล้ว Brave มีผู้ใช้ถึง 15 ล้านรายเดือนต่อเดือน
ICO ของ Brave ระดมทุนได้ 35 ล้านดอลลาร์ในเวลาไม่ถึง 30 วินาที เนื่องจากนักลงทุนต่างแก่งแย่งกันเพื่อซื้อโทเค่น และทีมงานของพวกเค้าก็สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้จริง และดึงดูดผู้ใช้หน้าใหม่เข้าสู่พื้นที่ของ Crypto
อ้างอิง : LINK
