Aave Companies กลุ่มการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) ได้รับการเปลี่ยนชื่อแบรนด์เป็น Avara เพื่อขยายฐานผู้ใช้ทั่วทั้งระบบนิเวศของ Web3
Avara ตั้งเป้าดึงดูดฐานผู้ใช้ Web3 ที่กว้างขึ้น
Stani Kulechov ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Avara (เดิมชื่อ Aave Companies) บอกว่าจำนวนข้อเสนอที่เพิ่มขึ้นของบริษัท ซึ่งรวมถึงโปรโตคอลสภาพคล่อง Aave , เหรียญ Stablecoin ของ GHO , Lens Protocol และ Sonar จำเป็นต้องมีแบรนด์หลักที่น่าดึงดูดใจ Web3 ที่กว้างขึ้น
“เราจะสร้างสรรค์นวัตกรรมใน DeFi ต่อไป และสร้างเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาในขณะเดียวกันก็สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ใช้งานง่ายและน่าดึงดูดซึ่งดึงดูดผู้คนในวงกว้าง”
Kulechov กล่าวเสริมว่า จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดึงดูดฐานผู้ใช้ในวงกว้างได้ ซึ่งการรีแบรนด์ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ “ยุคใหม่” ที่เทคโนโลยีบล็อคเชน “เข้าถึงได้ ใช้งานได้ และสนุกสนานมากขึ้น”
คำว่า Avara ได้รับแรงบันดาลใจจากคำภาษาฟินแลนด์ซึ่งมีคำจำกัดความหลายประการ รวมถึง “กว้างขวาง” “เปิดกว้าง” และ “ครอบคลุม” และในภาษาพูดหมายถึง “มองเห็นมากกว่าที่คุณเห็น”
Kulechov ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่าโปรโตคอลสภาพคล่องของ Aave จะยังคงดำเนินต่อไปภายใต้ชื่อแบรนด์เดียวกันผ่าน Aave Labs และยังคงมุ่งเน้นไปที่การมีส่วนร่วมในนวัตกรรมทางเทคโนโลยีภายในตลาด DeFi
การประกาศเปลี่ยนโฉมใหม่เกิดขึ้นพร้อมกับการเข้าซื้อกิจการ Los Feliz Engineering (LFE) และ Family Wallet ซึ่งเป็นกระเป๋าเงิน Ethereum แบบ self-custodial ซึ่งทำให้ชุดผลิตภัณฑ์ของ Avara ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถส่ง รับ แลกเปลี่ยน และถือครองสกุลเงินดิจิทัลได้
การซื้อกิจการยังรวมถึง ConnectKit ซึ่งเป็นไลบรารีสำหรับนักพัฒนาที่สร้างโดย Family Wallet เพื่ออำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อระหว่างบริการกระเป๋าและแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ โดยทีมงานของ LFE รวมถึง Benji Taylor ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง จะเข้าร่วมกับ Avara
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ nftgators.com