เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม สถาบัน China Academy for Information and Communications Technology หรือ CAICT ของจีน ได้เผยแพร่เอกสารชื่อ “2022 Blockchain Whitepaper” ซึ่งจากรายงานระบุว่า ปัจจุบันมีบริษัทบล็อกเชนมากกว่า 1,400 แห่ง ตั้งอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ และเมื่อรวมกับสหรัฐอเมริกาแล้ว ทั้งสองประเทศมีส่วนแบ่งการตลาด 52% ในแง่ของธุรกิจบล็อกเชนทั่วโลก
CAICT ยังเปิดเผยว่าสถาบันการศึกษาระดับสูงกว่ามัธยมศึกษาประมาณ 48 แห่งทั่วประเทศจีน ได้มีการสอนในระดับปริญญาและการรับรองที่เกี่ยวข้องกับ “วิศวกรรมบล็อกเชน” ซึ่งสถาบันได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชนสี่ประเภทที่มีศักยภาพในการใช้งานสูง ได้แก่
ประการแรก “เครือข่ายการชำระเงิน” ซึ่งจะอนุญาตให้มีการเผยแพร่ค่าธรรมเนียมอย่างโปร่งใสสำหรับบริษัทต่าง ๆ เช่น China Mobile และ China Unicom ประการที่สอง Zhejiang Cold Chains จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของอาหารได้ด้วยการสแกน QR codes ของผลิตภัณฑ์ ประการที่สาม แพลตฟอร์มการชำระเงินข้ามพรมแดนของ Trusple ที่สามารถช่วยให้ผู้ซื้อและผู้ขายได้รับข้อมูลการตรวจสอบสถานะของคู่สัญญาได้
และประการสุดท้าย แพลตฟอร์มการตรวจสอบบล็อคเชนที่สามารถช่วยหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินในการตรวจหาความผิดปกติของคำสั่งซื้อระหว่างเว็บเทรดต่าง ๆ ซึ่งทั้งยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีน เช่น Tencent, Ant Financial, Huawei และ Alibaba ต่างก็สร้าง “พันธมิตรบล็อกเชน” ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสำหรับการดำเนินงานของตน
ปัจจุบัน จีนอนุญาตให้เป็นเจ้าของ cryptocurrencies และ nonfungible tokens หรือ NFT ได้โดยได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ประเทศได้ห้ามการออกเหรียญ ICO พร้อมกับแบนเว็บเทรดสกุลดิจิทัลและการขุด cryptocurrency