Gal Yosef ศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลกในด้าน 3D art และแอนิเมชั่น ได้พิสูจน์ความเก่งกาจของเขาด้วยการเปิดตัวคอลเลกชัน NFT ที่ประสบความสำเร็จสองชุด ซึ่งในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Cointelegraph Yosef อธิบายว่า เหตุใด NFT จึงเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ “เป็นธรรมชาติ” สำหรับศิลปินดิจิทัล และเหตุใดอุตสาหกรรมจึงพร้อมที่จะเติบโตแม้จะมีปัญหาในปัจจุบัน
Yosef ประสบความสำเร็จในการเปิดตัวคอลเลกชัน Meta Eagle Club NFT ในเดือนมกราคม อธิบายว่า ทำไมงานอาร์ตเวิร์คแบบ nonfungible จึงน่าสนใจมาก:
“ผมคิดว่า NFT ได้ช่วยศิลปินดิจิทัลทั้งหมดอย่างมากมาย เพราะเป็นสถานที่ที่เป็นธรรมชาติมากสำหรับเรา”
NFT เป็นการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติสำหรับศิลปินดิจิทัล ตามที่ Yosef อธิบายไว้ NFT เป็น “งานศิลปะแบบเดียวกับผม เหมือนกับที่ผมทำอยู่ตลอดเวลา และเหมือนกับที่ผมเคยทำในรายการ [platforms] อื่น ๆ เสมอ” โดยเขากล่าวว่าโลกศิลปะกำลังเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับ NFT และ “ให้เวทีใหม่ ๆ แก่เราในการแสดงออก”
เขาเปิดตัวคอลเลกชัน Crypto Bulls Society ซึ่งสร้างรายได้มากกว่า 50 ล้านดอลลาร์จากการขายและการประมูล โดยเป็น NFT ที่ไม่เหมือนใครซึ่งสร้างขึ้นโดยความร่วมมือกับ Steve Aoki โปรดิวเซอร์ชาวอเมริกัน และทำเงินให้ Yosef 214,000 ดอลลาร์ในการประมูลของ Sotheby
Did you know …
— Crypto Bull Society (@Crypto_Bull_NFT) November 3, 2021
Gal Yosef (our artist) has recently sold his own NFT in collaboration with Steve Aoki for $214.000😱.
This is the first time that we have made Gal's art available for a broader audience. Make sure to get your hands on one of the sickest NFTs of this time🚀! pic.twitter.com/hzjND3ynIG
Yosef กล่าวว่า อุตสาหกรรมบล็อคเชนที่เติบโตขึ้น และโดยเฉพาะเทคโนโลยี metaverse อาจเป็น “สิ่งที่ยิ่งใหญ่ต่อไป”
“ผมกำลังมองหาที่จะใส่ลายเซ็นของผมลงไปและทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่” เขากล่าวโดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม