มีรายงานว่า การหลอกลวงที่เกี่ยวกับ Cryptocurrency เป็นหนึ่งในความผิดทางไซเบอร์ที่พบบ่อยที่สุดในฮ่องกงในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 และ 25% เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล
จากการรายงานของ South China Morning Post พบว่ามีการโจมตีทางไซเบอร์ 10,613 ครั้งในฮ่องกง ระหว่างต้นเดือนมกราคมถึงปลายเดือนมิถุนายนปีนี้ โดย 798 ครั้งเป็นรูปแบบการฉ้อโกงที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล – ซึ่งนับเป็นการเพิ่มขึ้น 105% เมื่อพิจารณาจากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2021
ผู้กระทำผิดได้เงินจากเหยื่อรวมกันประมาณ 387.9 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 50 ล้านดอลลาร์) ทั้งจากบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัลและบุคคลในฮ่องกง ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับ 21 ล้านดอลลาร์ที่ถูกขโมยไปในครึ่งปีแรกของปี 2021
เหยื่อรายหนึ่งคือหญิงวัย 30 ปีชื่อ ฟาน ซึ่งเป็นผู้จัดการร้านแลกเปลี่ยนเงินตราในภูมิภาค โดยเมื่อไม่กี่เดือนก่อน เธอได้รับข้อความบน WhatsApp จากบุคคลนิรนามซึ่งอ้างตัวเองว่าเป็นหัวหน้าแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล และหลอกล่อให้เธอลงทุนประมาณ $280,000 ใน Tether (USDT)
“ธุรกรรม 4 รายการแรก ดำเนินไปอย่างราบรื่น และเหยื่อได้รับเงินจำนวน 2.7 ล้านเหรียญฮ่องกง ซึ่งรวมถึงเงินที่จ่ายให้กับเธอสำหรับบริการแลกเปลี่ยนที่เธอมอบให้กับนักต้มตุ๋น ซึ่งเมื่อถึงจุดนั้น นักต้มตุ๋นก็ได้รับความไว้วางใจจากเหยื่อ” เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายกล่าว
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ผู้กระทำผิดก็ได้แนะนำให้ Fan โอนกำไรสะสมไปยังกระเป๋าเงินคริปโตเคอเรนซี่ที่น่าสงสัย และทำให้เธอสูญเสียการเข้าถึงทรัพย์สินของเธอในขณะที่นักต้มตุ๋นก็หยุดติดต่อพูดคุยกับเธอทันที
ตำรวจฮ่องกงระบุเพิ่มเติมว่า การฉ้อโกงเกี่ยวกับทรัพย์สินดิจิทัลเป็นหนึ่งในสามกลโกงอันดับต้น ๆ ในประเทศในช่วงแรกของปี 2022
การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของการหลอกลวงสกุลเงินดิจิทัลในฮ่องกง อาจได้รับแรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจากการสำรวจที่ดำเนินการเมื่อเดือนที่แล้วเปิดเผยว่าฮ่องกงเป็นหนึ่งในประเทศที่พร้อมในด้านคริปโตมากที่สุดในโลก
