บริษัทด้านคริปโตฯ กว่า 40 แห่งได้ลงนามในจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐสภายุโรป คณะกรรมาธิการยุโรป และสถาบันหลักอื่น ๆ ในสหภาพยุโรป โดยเรียกร้องให้มีการปฏิบัติตามกฎระเบียบทั่วไป การปฏิบัติตามมาตรฐาน และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เป็นมิตรต่อนวัตกรรม
โดยจดหมายเปิดผนึกในนามของชุมชน Web3 ระหว่างประเทศและธุรกิจทั่วยุโรป ถูกส่งไปยังสถาบันของสหภาพยุโรปในวันอังคาร ที่ผ่านมา
สำหรับ Cosigners ได้อ้างว่าข้อเสนอล่าสุดโดยสมาชิกสภานิติบัญญัติของสหภาพยุโรปบางคน เช่น ข้อกำหนดในการเปิดเผยข้อมูลสำหรับกระเป๋าเงินคริปโตฯ ที่ไม่ได้ถูกคุมขัง (non-custodial crypto wallet) สามารถทำให้การนำ Web3 มาใช้นั้นจะเป็นภาระเกินไปสำหรับพลเมืองยุโรป
ด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในโลกคริปโตฯ สนับสนุนให้หน่วยงานกำกับดูแลไม่ให้เกินคำแนะนำของ FATF Travel Rule สำหรับผู้ให้บริการสินทรัพย์คริปโตฯ (CASP) ในการเก็บบันทึกและตรวจสอบ และ ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าโปรโตคอลและหน่วยงานที่กระจายอำนาจ (Decentralized) ได้รับการยกเว้นจากองค์กรและการลงทะเบียนตามกฎหมาย
ส่วนคำขออื่น ๆ ก็จะมี การยกเว้นสำหรับอัลกอริธึมหรือ Decentralized Stablecoin จากคำจำกัดความของโทเค็นที่อ้างอิงสินทรัพย์ในระเบียบ EU ที่เสนอเกี่ยวกับตลาดในสินทรัพย์ Crypto หรือ MiCA
ในบรรดาผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ได้ลงนามในจดหมาย ก็จะมาจากบริษัทที่มีชื่อเสียงด้านคริปโตฯ ได้แก่ Pascal Gauthier จาก Ledger, Diana Biggs จาก DeFi Technologies, Jean-Baptiste Grafiteau จาก Bitstamp Europe, Lane Kasselman จาก Blockchain.com และอื่นๆ
และเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา สมาชิกของคณะกรรมการรัฐสภายุโรป 2 แห่งได้ลงมติสนับสนุนชุดกฎระเบียบต่อต้านการฟอกเงิน (AML) ที่พยายามแก้ไขระเบียบการโอนเงินในปัจจุบัน (TFR) ในลักษณะที่กำหนดให้ผู้ให้บริการคริปโตฯ ต้องตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้ริเริ่มหรือผู้รับผลประโยชน์ที่อยู่เบื้องหลังกระเป๋าเงินที่ไม่ได้เป็นเจ้าของ สำหรับทุกธุรกรรมที่ทำระหว่างผู้ให้บริการ และกระเป๋าเงินที่ไม่ใช่การคุมขัง (non-custodial wallet) ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารที่โดดเด่นหลายคนในวงการคริปโตฯ ประณามการย้ายดังกล่าว เผยว่าข้อกำหนดมีมากเกินไปและไม่สามารถทำได้
อ้างอิง : LINK