คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ สมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวว่า “บล็อคเชนถูกประเมินค่าเกินจริงไปมาก” และได้เปรียบเทียบเอกสารการวิจัยบางฉบับเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) กับข้อมูลการค้า
วอลเลอร์ พูดระหว่างการอภิปรายในเรื่องที่ว่าธนาคารกลางควรออกสกุลเงินดิจิทัลหรือไม่?
เฟดได้เผยแพร่ผลการศึกษาเมื่อเดือนมกราคมที่วิเคราะห์เกี่ยวกับคำถามเดียวกันนี้ และในคำสั่งของผู้บริหารที่ลงนามในเดือนนี้ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ก็ได้สั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางไปศึกษาสินทรัพย์ดิจิทัลเช่นกัน
วอลเลอร์ แย้งว่าในอดีตเฟดมีบทบาทเบื้องหลังในตลาดเอกชน และกล่าวว่าเมื่อพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงเขาจะต้องถามก่อนว่า “ความล้มเหลวอะไรของตลาดที่ทำให้เราต้องเปลี่ยนจากประเพณีที่มีมากว่า 100 ปี และนำ CBDC สำหรับรายย่อยมาใช้”
ผู้ว่าการเฟดยังกล่าวอีกว่าเขาได้เห็นเอกสารการวิจัยเกี่ยวกับ CBDC ที่อ่านแล้วดูเหมือน “ข้อมูลการค้า” มากกว่า และเบี่ยงเบนความสนใจของผู้บริโภคจากการถามตัวเองว่าพวกเขาต้องการมันจริงหรือไม่
Gary Gorton ศาสตราจารย์ด้านการเงินที่ Yale ได้สนับสนุนแนวทางเชิงรุกโดยชี้ให้เห็นว่าจากมุมมองทางประวัติศาสตร์ “ทุกประเทศในโลก” ได้ให้อำนาจอธิปไตยผูกขาดการสร้างเงินเพื่อเห็นแก่ความมั่นคงทางการเงิน
Gorton กล่าวว่าในขณะที่ซัพพลายเชนทั่วโลกใช้เทคโนโลยีบล็อคเชนอย่างแพร่หลายมากขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาว่าวิธีการชำระเงินจะเป็นอย่างไร
“มันอาจจะเป็น CBDC ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะไม่เช่นนั้น Stablecoin จะเข้ามาแทนที่ และพวกเขาก็จะเติบโต จากนั้นเราจะมีปัญหาใหญ่”
“ถ้า stablecoins แพร่หลายมากขึ้นและมีการใช้งานมากขึ้น ผมคิดว่าเรามีปัญหาแน่ ” Gorton กล่าว “เราไม่ได้พูดถึงสิ่งที่เป็นนามธรรม แต่เรากำลังพูดถึงตลาดเงินที่ได้รับอิทธิพลจาก Stablecoins แล้ว”