คณะผู้เชี่ยวชาญของธนาคารกลาง 4 ราย ได้เผยว่าพวกเขาเข้าใกล้สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางอย่างไร ในระหว่างการประชุมที่ จัดโดยธนาคารกลางแห่งเปรู (BCRP) และธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS)
ความคิดเห็นของพวกเขา แสดงให้เห็นว่าในขณะที่หลายประเทศให้ความสนใจกับ crypto และกำลังคิดอย่างหนักว่าจะควบคุมมันอย่างไร แต่งานส่วนใหญ่ของสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ยังคงอยู่ระหว่างดำเนินการ
Julio Velarde ประธานธนาคารกลางของเปรู กล่าวว่าเขามุ่งเน้นที่การปรับปรุงระบบการชำระเงินเป็นหลัก โดยทำให้ระบบมีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีค่าใช้จ่ายน้อยลงในขณะที่เชื่อมต่อระหว่างผู้เล่น โดยสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในเดือนพฤศจิกายนว่าเปรูกำลังทำงานร่วมกับธนาคารกลางอีกสามแห่งเพื่อวิจัย CBDC
“ส่วนหนึ่งของสิ่งนั้นในตอนท้ายอาจอยู่ที่จุดสิ้นสุดของสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาหลัก” Velarde กล่าว “ความกังวลของเรา เหตุใดเราจึงนึกถึงสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง เป็นเพราะเราเชื่อว่า ‘สกุลเงินที่เสถียร’ อาจมีความสำคัญเพิ่มขึ้น”
ในมุมมองของ Velarde แนวทางของเอลซัลวาดอร์ในการทำให้ bitcoin ถูกกฎหมาย “มีความเสี่ยงมาก” สำหรับบัญชีการเงิน (Financial Accounting) , เจ้าหนี้ และคนที่ออมเงินในสกุลเงินนั้น
Agustín Carstens ผู้จัดการทั่วไปของ BIS และอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศเม็กซิโกระหว่างปี 2010-2017 กล่าวว่า สังคมกำลังกระหายในการทำธุรกรรมทางการเงินดิจิทัล
“ในหลายประเทศ สังคมโดยรวมไม่มีทางเลือกที่จะถือเงินของธนาคารกลางในรูปแบบดิจิทัล และความรู้สึกของเราก็คือมีความเป็นไปได้สูงที่ความอยากที่จะถือสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางจะอยู่ที่นั่น” Carstens กล่าว “และนั่นก็เกิดขึ้นเพราะมีบางสิ่งที่เงินของธนาคารกลางอาจทำได้ ซึ่ง private money รูปแบบอื่นทำไม่ได้ – และนั่นคือความไว้วางใจที่มีอยู่ในสกุลเงินประจำชาติ”
อย่างไรก็ตาม Carstens กล่าวว่าเป็นไปได้ที่จะปรับปรุงระบบการชำระเงินโดยไม่ต้องใช้ CBDC หรือสกุลเงินดิจิทัล โดยสังเกตจากระบบการชำระเงินระดับประเทศ เช่น Pix ของบราซิลหรือ CoDi ของเม็กซิโก (ระบบเดิมใช้กันอย่างแพร่หลายมากกว่า) โดยเม็กซิโกเพิ่งกล่าวว่ามีแผนจะออก CBDC ของตนเองภายในปี 2024
ในมุมมองของ Carstens สกุลเงินที่มีเสถียรภาพ “เข้าไปสู่สินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไรมากขึ้น” และเขายังกล่าวเสริมว่า: “DeFi เป็นช่องทางในการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ดังนั้นผมคิดว่ามันยังมีขอบเขตจำกัด”
John Williams ประธานและ CEO ของ Federal Reserve Bank of New York เน้นย้ำว่า สหรัฐฯ จำเป็นต้องมีกรอบการกำกับดูแลที่เข้มงวดเกี่ยวกับ cryptocurrencies
“เราต้องการโครงสร้างการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริงเกี่ยวกับ cryptocurrencies โดยทั่วไปและเหรียญ stablecoin” Williams กล่าว “ผมคิดว่าจะมีนวัตกรรมมากมายเกิดขึ้นในระบบการเงิน”
“แม้ว่าปัญหาด้านกฎระเบียบมีความสำคัญมากสำหรับสหรัฐอเมริกา แต่คุณสามารถเห็นปัญหามากมายเกี่ยวกับความมั่นคงทางการเงิน นักลงทุนและการคุ้มครองผู้บริโภค การฟอกเงิน และสิ่งต่าง ๆ หากคริปโตเคอเรนซีไม่ได้รับการควบคุมอย่างเหมาะสม”
Roberto Campos Neto ประธานธนาคารกลางของบราซิล กล่าวว่า ความท้าทายหลักในการควบคุมกฎระเบียบคือการทำให้มั่นใจว่ากฎหมายยังคงสามารถแข่งขันได้ในขณะที่นวัตกรรมมีวิวัฒนาการแบบทวีคูณ
“ปัญหาที่แท้จริงคือ มันจะสามารถแข่งขันได้อีกสามปี , สี่ปี , ห้าปีข้างหน้าหรือไม่?” Campos ถาม “ดังนั้น ผมคิดว่าความท้าทายที่แท้จริงคือการทำให้กฎระเบียบยังไปข้างหน้าพร้อมกับการเติบโตอย่างทวีคูณ”
บราซิลกำลังทำงานเกี่ยวกับ CBDC ที่สามารถเปิดตัวได้ในปี 2024 โดยล่าสุดได้ประกาศว่าได้เลือกโครงการ 9 โครงการเพื่อก้าวไปข้างหน้าในความท้าทายด้านนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับโครงการ และประเทศยังเปิดตัวระบบชำระเงินทันทีที่เรียกว่า Pix ในเดือนพฤศจิกายน 2020 ซึ่งได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว
