Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ได้เสนอขีดจำกัดใหม่สำหรับข้อมูลการเรียกธุรกรรมทั้งหมดในบล็อก เพื่อลดต้นทุน calldata gas ของธุรกรรมโดยรวมบนเครือข่าย ETH
โพสต์ของ Buterin บนฟอรัม Ethereum Magicians ระบุว่า EIP-4488 เน้นย้ำถึงความกังวลเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่สูงในบล็อคเชน layer-one
“ด้วยเหตุนี้ โซลูชันระยะสั้นเพื่อลดต้นทุนเพิ่มเติมสำหรับการ rollups และเพื่อสร้างแรงจูงใจในการเปลี่ยนผ่านทั่วทั้งระบบนิเวศไปเป็น rollup-centric Ethereum ที่ต้องการ”
ในขณะที่ผู้ประกอบการอ้างถึงทางเลือกอื่นที่สามารถลดต้นทุน Gas ได้โดยไม่ต้องเพิ่มการจำกัดขนาดบล็อกเพิ่มเติม แต่เขามองเห็นความกังวลด้านความปลอดภัยในการลดต้นทุน calldata gas จาก 16 เป็น 3:
“[สิ่งนี้] จะเพิ่มขนาดบล็อกสูงสุดเป็น 10M ไบต์ และผลักดัน Ethereum p2p networking layer ไปสู่ระดับความเครียดและความเสี่ยงที่ไม่เคยมีมาก่อนในการทำลายเครือข่าย”
Buterin ได้ออกข้อเสนอแบบลดต้นทุนและ cap proposal ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อบรรลุเป้าหมายในการลดระดับความเครียดและความเสี่ยงที่จะทำลายเครือข่ายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และเชื่อว่า “1.5 MB จะเพียงพอ ในขณะที่ก็จะป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัยส่วนใหญ่”
หากได้รับการยอมรับ การดำเนินการตามข้อเสนอจะต้องมีการอัปเกรดเครือข่ายตามกำหนดเวลา ซึ่งสำหรับระบบนิเวศ Ethereum การอัพเกรดนี้หมายความว่าผู้ขุดจะต้องปฏิบัติตามกฎใหม่ที่ป้องกันไม่ให้มีการเพิ่มธุรกรรมใหม่ในบล็อกเมื่อขนาด calldata ทั้งหมดถึงขนาดสูงสุด “กรณีที่เลวร้ายที่สุดคือความยาวสูงสุดตามทฤษฎีที่ ~ 1,262,861 bytes ต่อ 12 sec slot หรือ ~ 3.0 TB ต่อปี”
อย่างไรก็ตาม ชุมชนกำลังหารือเกี่ยวกับตัวเลือกอื่น ๆ เช่น การนำ soft limit ไปใช้งาน และคนอื่น ๆ ก็แสดงความกังวลเกี่ยวกับความแออัดระหว่างการขายโทเค็น NFT ซึ่งอาจต้องการให้ผู้ใช้ชดเชยการขาด execution gas โดยจ่ายค่าธรรมเนียมทั้งหมดที่สูงขึ้น
ค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้นส่งผลให้มีการไหลออกของผู้ใช้จากเครือข่าย Ethereum เพื่อลดต้นทุนของเครือข่ายที่เข้ากันได้กับ Ethereum Virtual Machine
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ข้อมูลของ Etherscan แสดงให้เห็นว่าการ approv โทเค็นเพื่อทำธุรกรรมบนโปรโตคอลการเงินแบบกระจายอำนาจ Uniswap นั้นอาจมีราคาสูงถึง 50 ดอลลาร์ใน Ether ( ETH )
นอกจากนี้ โซลูชันเลเยอร์ 2 เป็นโปรโตคอลที่จะช่วยแก้ปัญหาค่าธรรมเนียม ก็มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่สูงเนื่องจากความแออัดของเครือข่ายท่ามกลางการเริ่มต้นใช้งานของผู้ใช้ใหม่
