จบไปแล้วสำหรับงาน The ₿ Word Conference ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยงานนี้ได้เชิญเหล่าผู้เชี่ยวชาญจากทั่วมุมโลกมาพูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับ Bitcoin โดยใน Session แรกของการเปิดงาน เป็นการพูดคุยภายใต้หัวข้อ “Demystifying Bitcoin” จากเหล่า Speaker ทั้ง 5 คน ได้แก่
- Nic Carter, หุ้นส่วนของ Castle Island Ventures บรรยายในหัวข้อ Bitcoin Wastes Energy
- Philip Gradwell, หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์ของ Chainalysis บรรยายในหัวข้อ Bitcoin Faciltates Criminal Activity
- Arjun Balaji, หุ้นส่วนของ Paradigm บรรยายในหัวข้อ Bitcoin is Unscalable
- Nate Maddrey, นักวิเคราะห์ของ Coin Metrics บรรยายในหัวข้อ Bitcoin Ownership is Concentrated
- Lyn Alden, ผู้ก่อตั้ง Lyn Alden Investment Strategy บรรยายในหัวข้อ Bitcoin Can Be Displaced Easily
โดยใน Session นี้ เป็นการพูดคุยเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ Bitcoin
ในหลายด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้พลังงาน, คุณสมบัติ, ความโปร่งใสของ Bitcoin เป็นต้น
Nic Carter ให้ข้อมูลว่า การใช้พลังงานส่วนใหญ่ของ Bitcoin เกิดขึ้นจากการขุด BTC ขึ้นมาใหม่ในระบบ โดยคิดเป็น 0.26% ของการใช้พลังงานทั่วโลก หรือน้อยกว่าการใช้ไฟฟ้าภายในครัวเรือนของอเมริกากว่า 12 เท่า และปัจจุบัน 39% ของการขุด Bitcoin มาจากการใช้พลังงานหมุนเวียนไม่ว่าจะเป็น พลังงานน้ำ,ลม,แสงอาทิตย์ หรือพลังงานภูเขาไฟ รวมถึงปัจจุบันมีแนวโน้มว่านักขุดกำลังหันมาใช้พลังงานสะอาดมากขึ้นเรื่อย ๆ
Philip Gradwell ให้ข้อมูลว่า การทำธุรกรรมบน Bitcoin นั้นโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ จากการรายงานในปี 2020 พบว่า มีเพียง 2% เท่านั้นที่เป็นการกระทำผิดกฎหมายเพราะกว่า 98% เป็นเรื่องของการค้าและการลงทุน แต่ในปัจจุบันรัฐบาลทั่วโลกได้จัดตั้งกฎระเบียบและกฎหมายออกมากำกับดูแลมากขึ้น
Arjun Balaji ให้ข้อมูลว่า ในปัจจุบันการใช้งาน Bitcoin นั้นไม่ได้ติดปัญหาการ Scaling (การแบ่งหน่วย) แม้แต่น้อย เพราะสามารถใช้งานผ่าน Layer 2 เช่น เครือข่าย Lightning network ที่เติบโตพุ่งทำจุดสูงสุดกว่า 1,800 BTC หรือสามารถใช้งานผ่าน Sidechains และ Bitcoin Banks ได้ ซึ่งพบว่าปัจจุบันมี Wrapped BTC (WBTC) มูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในระบบ
Nate Maddrey ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันมี Bitcoin ใน Exchange ทั่วโลกประมาณ 9% ของอุปทานระบบ, Bitcoin Trust ของ Grayscale มีประมาณ 3.5% ของอุปทานทั้งหมด และมากกว่า 1% ของอุปทานเป็น WBTC บน ETH Chain โดยเขาได้กล่าวว่าแม้จะมี Address ที่ถือครอง BTC ไว้เป็นจำนวนมาก แต่เป็นไปได้ว่า 1 Address นั้นอาจเป็นกระเป๋าของกองทุนหรือ Exchange ที่ดูแลเงินของลูกค้านับพันคน เขาได้กล่าวว่า “ระบบการกระจายอำนาจของ BTC มีความโปร่งใสและทำได้ดีกว่า Altcoin มาก ไม่ว่าจะเป็น ETH หรือ DOGE ก็ตาม”
Lyn Alden ให้ข้อมูลว่า ความสำเร็จของการเป็น Protocol ขึ้นอยู่กับการมี Network Effect ที่แข็งแกร่งและ Bitcoin ได้ครองแชมป์การเป็นที่ 1 ของสกุลเงินดิจิตอล ตลอด 13 ปีตั้งแต่ที่มันเกิดขึ้นมา เพราะว่าระบบของ Bitcoin มีความแข็งแกร่งในทุกด้าน ทั้งด้านความปลอดภัย, การใช้งาน, การกระจายอำนาจของโหนดและนักขุดทั่วโลก เธอได้กล่าวว่า “ไม่มีความเป็นไปได้เลยที่จะมีสกุลเงินอื่นขึ้นมาแทนที่ Bitcoin เพราะ Altcoin ส่วนใหญ่คล้ายการเป็นบริษัทมากกว่าที่จะเป็น Protocol”