องค์การสหประชาชาติ (UN) กล่าวหาว่าเกาหลีเหนือขโมยเงินคริปโตมูลค่า 281 ล้านดอลลาร์จากเว็บเทรดในช่วงเดือนกันยายน 2020 โดยนำเงินไปเป็นเงินทุนโครงการอาวุธนิวเคลียร์
ตามรายงานของรอยเตอร์ จาก “รายงานที่เป็นความลับ” ซึ่งเขียนขึ้นโดยการตรวจสอบการคว่ำบาตรสำหรับสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้แนะนำถึงความเชื่อมโยงระหว่างผู้กระทำผิดของการแฮ็กกับเกาหลีเหนือ โดยสำนักข่าวรอยเตอร์อ้างว่า
“การวิเคราะห์เบื้องต้นโดยพิจารณาจากการโจมตีและความพยายามในการฟอกเงินที่ผิดกฎหมายในเวลาต่อมา พบว่ามีความเชื่อมโยงไปยังเกาหลีเหนือ”
สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า รายงานของสหประชาชาติกล่าวหาเกาหลีเหนือว่าใช้เงินที่ขโมยมาเพื่อสนับสนุนโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ ซึ่งละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติ
นอกจากนี้ รายงานของ UN ยังอ้างว่าผู้โจมตียังได้ใช้ประโยชน์จาก smart contracts ของโปรโตคอล DeFi:
“ผู้โจมตีใช้ประโยชน์จากโปรโตคอล ‘DeFi’ นั่นคือ smart contracts ที่อำนวยความสะดวกในการทำ automated transactions”
รายงานประเมินว่าเกาหลีเหนือสร้างรายได้รวมประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์จากการโจมตีทางไซเบอร์ที่ “แพร่หลายและซับซ้อนมากขึ้น” โดยมีเป้าหมายที่ธนาคารและเว็บเทรดคริปโตในปี 2019
องค์การสหประชาชาติตั้งข้อสังเกตว่า ประเทศสมาชิกเชื่อว่าเกาหลีเหนือขโมยสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่า 316.3 ล้านดอลลาร์ระหว่างปี 2019 ถึงพฤศจิกายน 2020
อ้างอิง : LINK