Tether Holdings Limited บริษัทที่อยู่เบื้องหลัง USDT stablecoin มี “กำไรสุทธิทำลายสถิติสูงสุด” ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2023 โดยได้รับแรงหนุนจากดอกเบี้ยจาก Treasury Bill และผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งจากสินทรัพย์อื่นๆ
ตามรายงานการรับรองของ Tether เมื่อวันที่ 31 มกราคม บริษัทบันทึกกำไรสุทธิ 2.85 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สี่ของปี 2023 ซึ่งรวมถึงดอกเบี้ยสุทธิสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์จาก United States Treasury securities , ทองคำ , และ Bitcoin
การวิเคราะห์จาก Zippia แสดงให้เห็นว่า Tether มีพนักงาน 125 คน ทำให้กำไรสุทธิต่อพนักงานอยู่ที่ 22.8 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่แล้ว
สำหรับปีนี้ Tether เปิดเผยกำไรสุทธิรวม 6.2 พันล้านดอลลาร์ โดย 4 พันล้านดอลลาร์ถูกสร้างขึ้นจาก U.S. Treasury bonds และการลงทุนที่ไม่ใช่สกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ โดยสินทรัพย์ทั้งหมดภายใต้การบริหารของ Tether ได้แก่ 80.3 พันล้านดอลลาร์ใน U.S. Treasurys , 2.8 พันล้านดอลลาร์ใน BTC , 3.5 พันล้านดอลลาร์ในทองคำ และ 1.5 พันล้านดอลลาร์ในการลงทุนร่วมลงทุน
Treasurys คือตราสารหนี้ที่ออกโดยกระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกาเพื่อใช้ในการใช้จ่ายของรัฐบาล โดยอัตราผลตอบแทนคือผลตอบแทนที่นักลงทุนได้รับจากการให้กู้ยืมเงินแก่รัฐบาล ซึ่งในเดือนธันวาคม 2023 อัตราผลตอบแทน U.S. Treasury bill อายุ 1 ปีอยู่ที่ 4.7%
Tether ได้ย้ายการ back stablecoin ด้วยสินทรัพย์คุณภาพสูงกว่า เช่น T-bills และทองคำสำรอง โดยในเดือนกันยายน 2023 บริษัทอ้างว่าเป็นหนึ่งในผู้ซื้อ U.S. Treasury bills รายใหญ่ที่สุดของโลก
Tether ได้สะสมทุนสำรองส่วนเกินไว้ 5.4 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 ครอบคลุมเงินกู้ที่มีหลักประกันมูลค่า 4.8 พันล้านดอลลาร์ เพื่อเป็นการตอบสนองต่อความกังวลของชุมชนเกี่ยวกับความเสี่ยง
“Tether มีความภูมิใจที่จะประกาศว่าได้บรรลุเป้าหมายในการขจัดความเสี่ยงในการกู้ยืมที่มีหลักประกันจากทุนสำรองโทเค็น ในขณะที่เงินกู้ที่มีหลักประกันดังกล่าวมี overcollateralized” บริษัทกล่าวในแถลงการณ์ โดย BDO Global เป็นผู้ตรวจสอบการเงินของ Tether
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ dailyhodl.com