บริษัท Chainalysis ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและปฏิบัติตามกฎหมายด้านคริปโต ได้เผยแพร่รายงานอาชญากรรมด้านคริปโตประจำปี 2024 ส่วนแรก โดยเปิดเผยว่า กิจกรรมผิดกฎหมายบนเครือข่ายโดยรวมลดลง 19.6% ในรอบปี จาก 20.9 พันล้านดอลล่าร์เป็น 16.7 พันล้านดอลล่าร์
นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่า นี่แสดงให้เห็นว่า “กิจกรรมที่ถูกกฎหมายกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วมากกว่ากิจกรรมที่ผิดกฎหมาย”
อย่างไรก็ตาม ยังมีรายงานอีกว่าแม้ธุรกรรมผิดกฎหมายจะลดลง แต่กิจกรรมผิดกฎหมาย 2 ประเภท ได้แก่ เงินที่ถูกขโมยและแรนซัมแวร์ กลับเพิ่มขึ้น
แม้ว่ากิจกรรมที่ผิดกฎหมายจะลดลงตั้งแต่ต้นปี (YTD) เมื่อเทียบกับปีก่อนๆ แต่กระแสเงินคริปโตที่ไหลเข้าสู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางไซเบอร์โดยเฉพาะ กลับแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่น่ากังวล
เงินที่ถูกขโมยเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจาก 857 ล้านดอลลาร์เป็น 1.58 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่เงินเรียกค่าไถ่ก็เพิ่มขึ้นประมาณ 2% จาก 449.1 ล้านดอลลาร์เป็น 459.8 ล้านดอลลาร์
งานวิจัยเผยให้เห็นว่า มูลค่าเฉลี่ยที่ถูกขโมยต่อการโจรกรรมแต่ละครั้งเพิ่มขึ้นเกือบ 80% และแฮ็กเกอร์กำลังมุ่งเป้าไปที่เว็บเทรดแบบรวมศูนย์มากขึ้น แทนที่จะให้ความสำคัญกับโปรโตคอล DeFi
นอกจากนี้ ปีนี้ยังเป็นปีที่มีการจ่ายเงินค่าไถ่จากแรนซัมแวร์สูงสุดอีกด้วย โดยค่าไถ่เฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 200,000 ดอลลาร์ในช่วงต้นปี 2023 เป็น 1.5 ล้านดอลลาร์ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2024
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการโจมตีบ่อยขึ้น แต่เหยื่อกลับจ่ายค่าไถ่น้อยลง
นอกจากนี้ Chainalysis ยังรายงานอีกว่ากระแสเงินไหลเข้า “บริการเสี่ยง” เช่น บริการปกปิดธุรกรรมและเว็บเทรดที่ไม่มีขั้นตอน KYC มีแนวโน้มสูงขึ้นกว่าที่เคยเป็นมาในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
อ้างอิง : cryptopotato.com
ภาพ merriman.com