Alexander Vinnik ผู้ร่วมก่อตั้ง BTC-e บริษัทเว็บเทรด crypto ได้รับสารภาพในความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดในการฟอกเงิน โดยสิ่งนี้เป็นไปตามการสอบสวนซึ่งเผยให้เห็นกิจกรรมที่ผิดกฎหมายอย่างกว้างขวางใน BTC-e ตั้งแต่ปี 2011 ถึง 2017
ในการแถลงข่าววันที่ 3 พ.ค. กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) ระบุว่า ในช่วงที่ Vinnik เป็นผู้นำนั้น BTC-e ได้ประมวลผลธุรกรรมมากกว่า 9 พันล้านดอลลาร์และมีฐานผู้ใช้มากกว่าหนึ่งล้านคนทั่วโลก โดยมีผู้ใช้จำนวนมากในสหรัฐอเมริกา
DOJ เน้นย้ำว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวถูกใช้เพื่อฟอกเงินที่ได้มาจากกิจกรรมทางอาญาต่าง ๆ รวมถึงการแฮ็กคอมพิวเตอร์ , การโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ , และการค้ายาเสพติด
จากข้อมูลของ DOJ เปิดเผยว่า BTC-e ดำเนินการโดยไม่มีมาตรการปฏิบัติตามกฎหมายที่จำเป็น รวมถึงการจดทะเบียนกับเครือข่ายการบังคับใช้อาชญากรรมทางการเงิน (FinCEN) และโปรโตคอลต่อต้านการฟอกเงิน (AML) หรือโปรโตคอล KYC
ข้อบกพร่องเหล่านี้ทำให้ BTC-e ได้รับความนิยมในหมู่บุคคลที่ต้องการปกปิดธุรกรรมจากการบังคับใช้กฎหมาย นอกจากนี้ Vinnik ยังถูกค้นพบว่าได้จัดตั้งบริษัทและบัญชีทางการเงินจำนวนมากทั่วโลก ซึ่งช่วยในการโอนเงินอย่างผิดกฎหมายผ่าน BTC-e ส่งผลให้เกิดความสูญเสียทางอาญารวมอย่างน้อย 121 ล้านดอลลาร์
Vinnik ถูกจับกุมในข้อหาฟอกเงินในกรีซในปี 2017 และถูกส่งตัวข้ามแดนไปยังฝรั่งเศสในปี 2020 ซึ่งในฝรั่งเศส Vinnik พ้นข้อกล่าวหาเกี่ยวกับแรนซัมแวร์ แต่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาฟอกเงิน และถูกตัดสินจำคุก 5 ปี
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ coinengineer.io
