โมเมนตัมขาขึ้นที่ขับเคลื่อน Bitcoin สู่ระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 73,835 ดอลลาร์ในวันที่ 14 มีนาคม กำลังลดลง และราคาก็ลดลงถึง 10% จากระดับสูงสุดตลอดกาลในวันที่ 2 เมษายน ในบทความนี้เรามาดูปัจจัยที่ส่งผลให้ราคา Bitcoin ลดลงกันดีกว่า
Bitcoin อยู่ในช่วงย้อนรอยก่อนถึง halving
นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า Bitcoin อยู่ในช่วงเริ่มต้นของช่วงก่อนการ halving ซึ่งในอดีตมักเป็นไปตามรูปแบบที่แน่นอน เช่นเดียวกับการ halving ครั้งก่อน โดยราคาของ BTC ดูเหมือนจะเคลื่อนไหวไปตาม 5 ระยะของการ halving ของ Bitcoin ก่อนหน้านี้
ระยะเวลาของการขาดทุนสะสมในช่วงก่อนถึง halving มักจะเกิดขึ้นก่อน 18 วันของการ halving ซึ่งคาดไว้ในวันที่ 20 เมษายน
ตามโพสต์บน X จากนักเทรด crypto และนักวิเคราะห์อิสระ Rekt Capital แนะนำว่า การเคลื่อนไหวของราคาอย่างต่อเนื่องเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวก่อนการ halving ซึ่งพบว่า BTC ลดลง 38% และ 20% ในช่วงปี 2016 และ 2020
การโดนชำระบัญชีในตลาดฟิวเจอร์ส Bitcoin ที่เพิ่มขึ้น
การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วในตลาดฟิวเจอร์ส Bitcoin สามารถสังเกตได้จากการดูการชำระบัญชี โดยระยะเวลาของการชำระบัญชีฝั่ง long ใกล้เคียงกับความผันผวนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในระยะเวลา 24 ชั่วโมงในวันที่ 2 เมษายน มีสถานะ long มากกว่า 115 ล้านดอลลาร์ถูกชำระบัญชี
เมื่อ BTC ฝั่ง long ถูกชำระบัญชี ราคา Bitcoin จะได้รับผลกระทบในทางลบ โดยปริมาณโวลลุ่ม Bitcoin ก็ลดลงมากกว่า 30 พันล้านดอลลาร์จากระดับสูงสุดในวันที่ 5 มีนาคมที่ 45 พันล้านดอลลาร์ในกิจกรรมรายวัน
ผู้ถือครองในระยะสั้นเพิ่มมากขึ้น
นอกจากปริมาณการซื้อขายที่ลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่งจากระดับสูงสุดในรอบปีแล้ว ผู้ถือครองระยะยาวยังลดความเสี่ยงและมีการขายทำกำไรอีกด้วย โดยผู้ซื้อ Bitcoin รายล่าสุดดูเหมือนจะเป็นผู้ถือครองระยะสั้น ซึ่งผู้ถือครองระยะสั้นในกลายเป็นกลุ่มประชากรที่มีอุปทาน BTC สูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2021 ซึ่งอาจส่งผลให้ราคา Bitcoin ลดลงอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ จนถึงปัจจุบัน ราคาของ Bitcoin ยังคงได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจมหภาค และมีแนวโน้มว่าการดำเนินการด้านกฎระเบียบเพิ่มเติม , การ halving ของ BTC , และนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ จะยังคงมีผลกระทบต่อราคาของ BTC ต่อไป
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ bitcoinist.com