การนำ NFT มาใช้กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม โดยมีเครือข่ายร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดหลายแห่งแสดงความสนใจในสินทรัพย์ประเภทดังกล่าว
รายงานโดย Research and Markets คาดการณ์ว่า ขนาดตลาด NFT ของอาหารและเครื่องดื่มทั่วโลกจะเกิน 2 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2032 ซึ่งสถิติเหล่านี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดระดับโลก รวมถึง Pizza Hut และ Papa John’s เพิ่งค้นพบวิธีการใหม่ ๆ ในการรวม NFT เข้ากับกลยุทธ์ทางการตลาดของพวกเขา
รายงานระบุว่า ปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญสำหรับตลาดคือการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ และความต้องการ NFT เพื่อความโปร่งใสและการตรวจสอบย้อนกลับในอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งโอกาสในการเป็นเจ้าของที่ไม่ซ้ำใคร , การใช้ NFT ในเกมเสมือนจริงและวิดีโอเกม , ตลอดจนการส่งเสริมการขายและการโฆษณาจากบริษัทอาหารและร้านอาหาร เป็นปัจจัยอื่น ๆ ที่คาดว่าจะขับเคลื่อนตลาดในช่วงเวลาที่คาดการณ์ไว้
มูลค่าของ NFT อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความหายากและความนิยมของสินค้าที่เป็นตัวแทน โดย NFT บางรายการ ขายในราคาหลายล้านดอลลาร์ ซึ่งในอุตสาหกรรมอาหาร ตลาด NFT กำลังได้รับความสนใจเนื่องจากความต้องการความโปร่งใสและการตรวจสอบย้อนกลับ , การติดตามและตรวจสอบแหล่งที่มา คุณภาพ และความปลอดภัยของอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทั้งผู้บริโภค ร้านค้า และหน่วยงานกำกับดูแล
ในเดือนมีนาคม 2021 Pizza Hut Canada เข้าร่วมด้วยการเปิดตัว NFT “1 Byte Favorites” — คอลเลกชันพิซซ่าดิจิทัล ที่นำเสนอชิ้นพิซซ่าที่มีสูตรเฉพาะใน Rarible โดยมีตัวเลือกยอดนิยม เช่น ฮาวายเอี้ยน , เปปเปอโรนี , แคนาดาและมาร์เกอริตา โดย NFT ได้รับความนิยมและขายจนหมด
Papa John’s ซึ่งเป็นร้านพิซซ่าแบบสั่งกลับบ้าน ได้เข้าสู่ตลาด NFT ด้วยคอลเลกชัน “Hot Bags” ซึ่ง NFT เหล่านี้จัดแสดงการออกแบบกระเป๋าถือเพื่อโปรโมตสายธุรกิจใหม่ของพวกเขา นั่นคือ Papa John’s X Cheddar โดย NFT ถูกสร้างขึ้นบน Tezos blockchain โดยมีตัวเลขที่แสดงถึงปีก่อตั้งบริษัท (1984)
อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า การนำ NFT มาใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มมีอุปสรรคจากความซับซ้อนทางเทคนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ผลิตรายย่อย รวมถึงการรับรู้ที่จำกัดในหมู่ผู้บริโภคและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับประโยชน์ของ NFT ก็เป็นสิ่งที่ท้าทายเช่นกัน
อ้างอิง : cointelegraph
ภาพ foodnavigator-asia