Rick Porter ซีอีโอของ DSCVR สตาร์ทอัพโซเชียลมีเดียแบบกระจายอำนาจ ได้อธิบายเกี่ยวกับศักยภาพของแพลตฟอร์มที่จะเปลี่ยนวิธีที่ผู้ใช้โต้ตอบและแบ่งปันข้อมูลออนไลน์ โดย Porter กล่าวว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแบบกระจายอำนาจ ให้ “ศักยภาพสำหรับผู้ใช้ในการเป็นเจ้าของเนื้อหา , ข้อมูล , และตัดสินใจเกี่ยวกับการสร้างรายได้”
Porter ยังเชื่อว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแบบกระจายอำนาจ สามารถทำกำไรได้ทั้งแพลตฟอร์มและผู้ใช้ ซึ่งตามที่เขาพูด พวกเขาสามารถสร้างรายได้ผ่าน “โทเค็นและสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไหลผ่านพวกมัน”
“ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมเหล่านี้จะมอบโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในการพลิกโฉมการสร้างรายได้จากสื่อสังคมออนไลน์แบบเดิม ๆ ที่ขับเคลื่อนด้วยโฆษณา ในขณะเดียวกันก็มอบประสบการณ์แบบไม่มีโฆษณาให้กับผู้ใช้ด้วย”
CEO กล่าวว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแบบกระจายอำนาจ จะช่วยให้ครีเอเตอร์แต่ละคนสามารถเปิดใช้โฆษณาหรือสร้างรายได้จากเนื้อหาของตนได้ “สิ่งนี้จะจำลองรูปแบบรายได้จากการโฆษณาที่บุกเบิกโดยโซเชียลมีเดียแบบดั้งเดิม ในขณะเดียวกันก็มอบทางเลือก , อำนาจ ,และรายได้ให้กับผู้สร้างเนื้อหาบนแพลตฟอร์มด้วย”
จากข้อมูลของ Porter แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแบบ Web3 จะทำให้การจัดวางผลิตภัณฑ์ , การตลาดที่ใช้ผู้มีอิทธิพล , และการโฆษณาบนโซเชียลยกไปสู่อีกระดับและทำให้พวกเขาเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น โดยผู้ลงโฆษณาสามารถใช้โทเค็น NFT เป็นรูปแบบการจัดวางผลิตภัณฑ์ ตลอดจนวิธีการให้รางวัลแก่ลูกค้าที่ภักดีที่สุด ซึ่งผู้โฆษณาเหล่านี้ต้องการเป็นพันธมิตรกับครีเอเตอร์และชุมชนที่เกี่ยวข้อง และ Web3 adtech จะช่วยให้ผู้สร้างเหล่านี้สามารถพิสูจน์ได้ว่าชุมชนของตนเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ลงโฆษณา
เมื่อพูดถึงเรื่องของกฎระเบียบภายในระบบนิเวศของโซเชียลมีเดียแบบกระจายอำนาจ Porter กล่าวว่า “มีแนวโน้มว่ากฎระเบียบจะมีอยู่เพื่อปกป้องข้อมูลผู้ใช้และความเป็นส่วนตัวหรือเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของข้อมูลที่ผิด ซึ่งการมีระเบียบที่ชัดเจนเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปของสังคม” อย่างไรก็ตาม เขาอ้างว่า “เทคโนโลยีมักจะก้าวหน้าเร็วกว่ากฎระเบียบ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมการให้เครื่องมือและอำนาจแก่ผู้ใช้เพื่อช่วยควบคุมแพลตฟอร์มและชุมชนของพวกเขาเองจึงเป็นเรื่องสำคัญ”
Porter เชื่อว่าองค์กรอิสระแบบกระจายอำนาจ สามารถเป็นวิธีการควบคุมตนเองและตัดสินใจร่วมกันเป็นกลุ่ม แทนที่จะปล่อยให้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับบุคคลภายนอกหรือบุคคลที่มีอำนาจ