ข้อมูลจาก DappRadar แสดงให้เห็นว่า ปริมาณโวลลุ่มการซื้อขายที่ OpenSea ซึ่งเป็นตลาด NFT ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ลดลง 99% ในเวลาน้อยกว่าสี่เดือน แม้ว่าบริษัทจะโต้แย้งตัวเลขในระดับหนึ่ง แต่ก็ยอมรับว่ากิจกรรมที่ชะลอตัวลงอย่างมากนั้นเป็นเรื่องจริง และเป็นไปตามคาด
ตามหน้าสถิติของ DappRadar ปริมาณการซื้อขาย ETH รายวันที่ OpenSea สูงสุดเหนือ 400 ล้านดอลลาร์ในวันที่ 1 พฤษภาคมซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปัจจุบันแล้ว แพลตฟอร์มสร้างรายได้เพียง 5 ล้านดอลลาร์ เท่านั้น ในวันที่ 28 สิงหาคม
อย่างไรก็ตาม OpenSea ตั้งข้อสังเกตว่าตัวเลขนั้นเกินจริงไปเล็กน้อย เนื่องจากเป็นการเปรียบเทียบวันที่มีปริมาณการซื้อขายสูงผิดปกติ กับวันที่ของปริมาณต่ำสุดของแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่าการวัดปริมาณใน ETH แทนที่จะเป็นดอลลาร์ เป็นวิธีที่ดีกว่าในการกำจัดความผันผวนของราคาของ ETH
ราคาของ ETH ลดลงเกือบ 50% ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ตามข้อมูลจาก Dune Analytics ปริมาณโวลลุ่มบน OpenSea ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคมลดลง 62% แต่กำลังเผชิญกับความเจ็บปวดมากขึ้นในเดือนสิงหาคม
ในขณะเดียวกัน จำนวนผู้ใช้รายวันของ OpenSea ลดลงจาก 58,870 รายในวันที่ 9 มกราคม เหลือเพียง 23,620 รายในวันที่ 27 สิงหาคม และธุรกรรมรายวันลดลงจาก 137,500 รายการ เหลือเพียง 53,300 รายการในช่วงเวลาเดียวกัน
ด้านราคา Floor ของ NFT – ซึ่งหมายถึงราคา NFT ที่ต่ำสุดในคอลเลกชันใด ๆ – ก็มีการลดลงตลอดทั้งปี โดยขณะนี้ Bored Apes มีราคาที่ถูกที่สุดที่ 72.4 ETH เทียบกับ 153 ETH ในวันที่ 30 เมษายน ตามข้อมูลจาก NFT Price Floor ในทำนองเดียวกัน CryptoPunks ก็ลดลงจาก 84 ETH เป็น 67 ETH ตั้งแต่เดือนที่แล้ว
การชะลอตัวของตลาด crypto และ NFT มีผลกระทบอย่างมากต่อการดำเนินงานของ OpenSea ในเดือนกรกฎาคม โดยบริษัทถูกบังคับให้เลิกจ้างพนักงาน 20% เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่ CEO David Finzer คิดว่าอาจเป็นช่วงฤดูหนาวของ crypto ที่ยาวนานถึง 5 ปี