Urvit Goel รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจระดับโลกสำหรับเกมของ Polygon เชื่อว่า เกมที่รวมเอาโทเค็น NFT มีความได้เปรียบตามธรรมชาติมากกว่าเกมแบบดั้งเดิมที่ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ขายไอเท็มในเกม
Goel พูดอย่างตรงไปตรงมากับ Cointelegraph ในกรุงโซลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกี่ยวกับแรงผลักดันของ Polygon ในการช่วยให้เกม NFT แพร่หลาย และเหตุใดผู้เผยแพร่เกมในเกาหลีใต้อย่าง Neowiz และ Nexon จึงเข้าสู่พื้นที่นี้
ข้อโต้แย้งหลักข้อหนึ่งที่ Goel กล่าวก็คือ รูปแบบธุรกิจแบบดั้งเดิมที่เกม NFT แข่งขันด้วยอาจอ่อนแอกว่า ซึ่งในการเล่นเกมแบบดั้งเดิม ผู้ใช้มักจะซื้อไอเท็มในเกมด้วยเงินจริง แต่พวกเขาไม่สามารถขายสินค้าเหล่านั้นเป็นเงินจริงกลับคืนมาได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับเกมส่วนใหญ่ในพื้นที่ GameFi ผู้ใช้สามารถซื้อไอเท็มเป็นโทเค็น NFT และขายมันได้เมื่อเล่นเกมเสร็จแล้ว โดย Goel อ้างถึงรูปแบบดั้งเดิมว่าเป็น “เงินเข้าแต่ไม่มีเงินออก” และเน้นว่านักเล่นเกมควรจะสามารถเรียกคืนมูลค่าเป็นเงินจริงได้บางส่วนจากเงินทั้งหมดที่พวกเขาใส่เข้าไปในเกม
“เราแค่ต้องการให้ผู้ใช้สามารถเป็นเจ้าของเนื้อหาที่พวกเขากำลังซื้อได้ และถ้าพวกเขาเลือกที่จะขายมัน แม้ว่าคุณอาจจะขายได้เงินคืนมาน้อยกว่าเดิม แต่มันก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลยจริงมั้ย”
Goel กล่าวว่าเขาเห็นถึงสัญญาณที่ชัดเจนว่าผู้เผยแพร่เกมแบบดั้งเดิมกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการผลักดัน GameFi ครั้งใหญ่ โดยเริ่มจาก Nexon ยักษ์ใหญ่ด้านเกมของเกาหลีใต้ซึ่งเป็นเจ้าของเกมอย่าง MapleStory ที่ออกมาประกาศในเดือนมิถุนายนว่าจะสร้างเกม MapleStory ด้วย Blockchain และ NFT โดยชื่อว่า MapleStory N
Polygon ยังได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ Neowiz ของเกาหลีใต้เพื่อเปิดตัวเกมใหม่และที่มีอยู่บนเครือข่าย โดยเขาตั้งข้อสังเกตว่าการเข้ามาของบริษัทขนาดใหญ่ดังกล่าวกำลังสร้าง “เอฟเฟกต์โดมิโนเล็กน้อย” ในอุตสาหกรรม โดย Goel บอกเป็นนัยว่าผู้บริหารของบริษัทใหญ่ ๆ ที่เข้าสู่พื้นที่ blockchain จะต้องมีความมั่นใจอย่างมากในเทคโนโลยี มิฉะนั้นพวกเขาจะไม่นำเกมระดับบิ๊กเนมมาทำ GameFi