แม้จะเป็นที่รู้จักในด้านท่าทีต่อต้าน Crypto แต่จีนยังไม่ได้มีการสั่งห้าม NFT ในขณะเดียวกัน ความสนใจอย่างเห็นได้ชัดใน “ของสะสมดิจิทัล” ก็ได้เพิ่มขึ้นในประเทศเมื่อเร็ว ๆ นี้ ท่ามกลางรัฐบาลที่เตือนผู้คนไม่ให้ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบใด ๆ
“ของสะสมดิจิทัล” ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
หลังจากการห้าม crypto ทั้งหมดในปี 2021 บ่งบอกว่าจีนไม่มีความตั้งใจที่จะรวม cryptocurrency ไว้ในระบบการเงินของตน อย่างไรก็ตาม จีนยังไม่ได้กำหนดข้อบังคับหรือข้อห้ามเฉพาะเจาะจงกับ Non-Fungible-Tokens (NFT) ซึ่งมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับโทเค็น เช่น ETH และ SOL
ตามรายงานของ Huaxia Times หนังสือพิมพ์ของรัฐ ระบุว่ามีมากกว่า 500 แพลตฟอร์มที่ให้บริการซื้อขาย “ของสะสมดิจิทัล” ในประเทศ เพิ่มขึ้นจากประมาณ 100 แพลตฟอร์มดังกล่าวในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้
สื่อมวลชนระบุว่า การเติบโตในพื้นที่นั้นเกิดจากการขาดกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยระบุว่าตลาดรองหลายแห่งมีการดำเนินการในรูปแบบของการเก็งกำไร โดยรายงานอ้างว่าของสะสมจำนวนมากที่หมุนเวียนในตลาดรองมี “คุณภาพต่ำ” ดังนั้นตลาดอาจพังทลายลงได้ง่ายหากมีการกำกับดูแลด้านกฎระเบียบ
และเนื่องจากขาดการกำกับดูแลด้านกฎระเบียบ บุคคลและธุรกิจจึงพยายามมีส่วนร่วมกับของสะสมดิจิทัลอย่างระมัดระวัง เช่น WeChat ที่ได้สั่งห้ามบัญชีหลายบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายของสะสมดิจิทัลบนแพลตฟอร์ม
หลังจากที่ทางการจีนออกมาเตือนไม่ให้ซื้อของสะสมโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการเก็งกำไร ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจำนวนมากก็ได้เลี่ยงบาลีจากการใช้คำว่า “NFT” โดยตรง เมื่อต้องอธิบายถึงสินทรัพย์ดิจิทัล
โดยทางด้าน Ant Group และ Tencent Holdings ที่เป็นเจ้าของโดย Alibaba ได้ระบุถึงของสะสม NFT ของพวกเขาว่าเป็น “ของสะสมดิจิทัล” และทั้งคู่ให้บริการบนบล็อคเชนส่วนตัว ที่น่าสนใจคือพวกเขาตั้งราคาในสกุลเงินหยวนของประเทศ มากกว่าที่จะเป็นสกุลเงินดิจิทัลใด ๆ