ทำไม Larry David จึงเป็นดาราที่เหมาะสมสำหรับโฆษณาของ FTX ในงาน Super Bowl

ก่อนที่ FTX จะยอมจ่ายเงินเพื่อให้ได้พื้นที่โฆษณาในงาน Super Bowl ทางทีมงานมีเป้าหมายไว้ว่าจะต้องนำเสนอถึง brand ที่กำลังเติบโต เข้าถึงผู้ใช้งานใหม่ๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องมี Larry David แสดงนำ

“เรารู้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าเราต้องการทำงานร่วมกับเขา” Brett Harrison ประธานของ FTX US กล่าวกับ The Block 

David เป็นที่รู้จักจากซิทคอมยอดนิยมเรื่อง Seinfeld และซีรีส์ของ HBO เรื่อง Curb Your Enthusiasm แต่เขาไม่เป็นที่รู้จักกับการเป็นดาราโฆษณา และการโน้มน้าวให้ดารามาเป็นแนวร่วมธุรกิจ start up เป็นเรื่องที่ยาก

“จากการที่ FTX ทำงานร่วมกับ Dentsu Creative จึงมีชื่อของ David ผุดขึ้นมา ซึ่งแนวคิดของโฆษณาชุดนี้นั้นเน้นไปที่ David จะบ่นและปฎิเสธสิ่งใหม่ๆที่เกิดขึ้นตามยุคสมัย” Jeff Schaffer ผู้ดูแลการผลิตโฆษณาชุดนี้กล่าว

ในโฆษณา David จะบ่นถึงนวัตกรรม ประชาธิปไตยของอเมริกา ไปจนถึงห้องน้ำ และสุดท้ายแอพซื้อขายคริปโตของ FTX

“เอ่อ ฉันไม่คิดอย่างนั้น” จะออกจากปากของ David ตลอดทั้งโฆษณา ก่อนจะปรากฏคำว่า “อย่าเป็นอย่าง Larry” ขึ้นบนหน้าจอ

“David ได้นำเสนอตัวตนของผู้ที่มีความสงสัย คลางแคลงใจ” Schaffer กล่าวเสริมอีกว่า ” David แสดงเป็นผู้ต่อต้านนวัตกรรมที่สมบูรณ์แบบ”

“ความไม่รู้ร่วมกันที่ประสบความสำเร็จ”

อันที่จริงแล้ว บทบาทของ David ในโฆษณาที่คอยติติงก็สะท้อนถึงชีวิตจริง โดย Schaffer ได้เรียกการร่วมมือระหว่าง FTX ทีมงานของเขา และ David ว่าเป็น “

ความไม่รู้ร่วมกันที่ประสบความสำเร็จ”

Schaffer ได้เล่าถึงประสบการณ์ที่ได้ทำงานร่วมกับ David ในครั้งนี้ว่า “เมื่อเราพูดคุยกับผู้คนที่ FTX และได้พบกันครั้งแรก พวกเขาถามว่า “คุณใช้คริปโตหรือไม่” และเราตอบว่าไม่ “คุณรู้ไหมว่ามันทำงานอย่างไร” และเราตอบว่าไม่ “คุณเข้าใจบล็อกเชนหรือไม่” และเราบอกว่าไม่ การขาดความตระหนักช่วยเพิ่มน้ำหนักของตัวละคร และนั่นทำให้การทำงานร่วมกับ David สนุกกันมาก

Harrison ได้กล่าวว่า David ได้เข้ามามีส่วนร่วมในส่วนอื่นของการสร้างโฆษณาอีกด้วย

“เขามีส่วนร่วมกับกระบวนการสร้างสรรค์และกระบวนการตัดต่อเป็นพิเศษ และมีความเฉพาะเจาะจงมากเกี่ยวกับวิธีการตัดต่อเพื่อเล่าเรื่อง” 

โฆษณาของ FTX นั้น ถูกฉายเคียงคู่กับโฆษณาของ Coinbase ซึ่งทั้ง 2 บริษัทต้องจ่ายเงินราวๆ 13 ล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อเวลาสำหรับการโฆษณา 60 วินาที

แต่การจ้าง David และการผลิตโฆษณานั้นทำให้ต้นทุนแพงมากขึ้นไปอีกราวๆ 2 – 3 เท่า

อย่างไรก็ตาม Harrison กล่าวว่าแม้ว่าโฆษณาของ Coinbase จะ “ยอดเยี่ยม” แต่ก็ใช้แนวทางที่เหยียดหยาม โดยเน้นที่การได้ลูกค้าแทนที่จะเอาชนะใจของคนดู

Harrison ยังกล่าวอีกว่า “Coinbase ได้ผู้ใช้งานใหม่ไปเป็นจำนวนมาก แต่สำหรับเรา เราได้เห็นการฝากเงินมากขึ้น เห็นการเข้าใช้เว็บไซต์ที่มากขึ้น แต่สิ่งที่เราเห็นมากที่สุดเลยก็คือ การที่ผู้คนเข้าถึงช่องทางในโซเชียลในทุกๆช่องทางของเรามากขึ้น”

อาจจะมีผู้ติดตามใหม่ๆที่เป็นแฟนเดนตายของซีรีส์ Curb อีกด้วย

โฆษณา Don’t Miss Out on Crypto ที่ใช้ในงาน Super Bowl

อ้างอิง : LINK

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin

Radius

ผู้เชี่ยวชาญการเขียนข่าว บทความ ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin , คริปโตเคอเรนซี่ และ Blockchain ทั้งในไทยและต่างประเทศ อัพเดทราคา มุมมองการลงทุน ใหม่ล่าสุดทุกวัน
ข่าวต่อไป