เครือข่าย Bitcoin ( BTC ) ประสบความสำเร็จในการเปิดใช้งาน Taproot soft fork ตามมติ 90% จากผู้ขุดและ mining pools ระหว่างบล็อก 709,488 และ 709,632 โดยนี่ถือเป็นการอัพเกรดใหญ่ครั้งแรกสำหรับ Bitcoin ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2017 ซึ่งตอนนั้นเป็นการเปิดตัว Lightning Network และ Segregated Witness (SegWit)
การอัพเกรด Taproot มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงความสามารถในการเขียนสคริปต์และความเป็นส่วนตัวของเครือข่าย Bitcoin ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการยืดอายุของเครือข่าย Bitcoin “ผมคิดว่านั่นเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” Hampus Sjöberg ผู้พัฒนา Bitcoin ที่มีชื่อเสียงกล่าว
Sjöberg ซึ่งเป็นผู้พัฒนากระเป๋าเงิน Bitcoin Lightning Blixt Wallet เชื่อว่าการอัพเกรด Taproot จะช่วยให้สามารถสำรวจความสามารถ off-chain เพื่อไม่ให้เป็นภาระมากเกินไปบนโหนด Bitcoin ของเครือข่าย
นอกจากนี้ Sjöberg เชื่อว่าการอัพเกรดจะช่วยปรับปรุงความเป็นส่วนตัวของเครือข่าย Lightning รุ่นเก่าได้ “หากการใช้งาน Lightning เลือกใช้ Taproot”
นอกจากนี้ Sjöberg ยังอธิบายว่า “มันไม่สามารถบอกได้ว่าธุรกรรม Taproot เป็นเพียงการชำระเงินปกติ หรือเป็นของช่องทาง Lightning ซึ่งนี่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสามารถในการทำงานร่วมกันและการต่อต้านการเซ็นเซอร์ของ Bitcoin”
อย่างไรก็ตาม การอัปเกรด Taproot ยังถือเป็นจุดสิ้นสุดของ Speedy Trial deployments และการอัพเกรดเครือข่าย Bitcoin ในอนาคตจะต้องมีข้อกำหนดสำหรับวิธีการปรับใช้ soft fork ใหม่ “Taproot เปิดโลกแห่งความเป็นไปได้ แต่สิ่งแรกที่ผมอยากเห็นเป็นการส่วนตัวคือธุรกรรม “MuSig 2” Sjöberg กล่าว
“โดยส่วนตัวแล้วผมอยากเห็น “Cross-Input Signature Aggregation” เป็น soft fork ในอนาคตสำหรับ Bitcoin”