บริษัท Intel ได้เปิดเผยว่าการ์ดกราฟิก Arc ที่ออกมาของ Intel จะไม่มีการจำกัดซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ในการขุด Cryptocurrency
Roger Chandler กล่าวในการอภิปรายกับ Gadgets360, Intel VP and GM of Client Graphics Products and Solutions ว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์กราฟิกการ์ด Arc ที่ออกมาในชื่อรหัสว่า “Alchemist” จะไม่รวม “การล็อคซอฟต์แวร์และสิ่งต่างๆ ในลักษณะนั้น”
Chandler กล่าวว่า “เราไม่ได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ที่กำหนดเป้าหมายไปยังนักขุดโดยเฉพาะ ณ จุดนี้ “เท่าที่เราทำเพื่อหลีกเลี่ยงหรือปิดกั้น มันเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะอยู่ในตลาดและผู้คนจะสามารถซื้อได้” เขาเสริมว่า “ไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับเรา” ในขณะที่ตั้งข้อสังเกตว่า “เรากำลังออกแบบ Intel Arc และกลุ่มผลิตภัณฑ์ Alchemist ที่ให้ความสำคัญกับเกมเมอร์และครีเอเตอร์ก่อน”
GPU และการขุด Crypto
Intel เป็นเพียงผู้ผลิต GPU รายเดียวที่ต่อสู้กับคำถามว่าจะสร้างสมดุลให้กับฐานลูกค้าที่แข่งขันกันได้อย่างไร ตลาดดั้งเดิมสำหรับกราฟิกการ์ด—เกมเมอร์บนพีซี—ได้รับผลกระทบจากการมาถึงของนักขุดคริปโต ซึ่งใช้ GPU เพื่อขุดคริปโตเคอเรนซี เช่น Ethereum (นักขุด Bitcoin ได้เปลี่ยนไปใช้ฮาร์ดแวร์ ASIC เฉพาะสำหรับการขุดมานานแล้ว)
ผู้ผลิต GPU คู่แข่งอย่าง Nvidia ได้พยายามจำกัดการขุด Crypto โดยใช้ฮาร์ดแวร์ของตน โดยแนะนำตัวจำกัดอัตรา Hash ที่ควบคุมความสามารถของการ์ดที่จะใช้สำหรับการขุด ในเดือนพฤษภาคม 2564 Nvidia ประกาศว่าการ์ดกราฟิก GeForce รุ่นล่าสุดจะ “ไม่เป็นที่ต้องการของนักขุด” และย้ำว่า “GeForce เหมาะสำหรับการเล่นเกม” แต่ไม่ต้องการทำให้ตลาดเกิดใหม่ของนักขุด Crypto แปลกแยก
Nvidia ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์การขุด Crypto โดยเฉพาะ CMP หลังจากไตรมาสที่ 1 จะเห็นว่าบริษัทเพิ่มประมาณการรายรับสำหรับ CMP จากที่คาดไว้ 50 ล้านดอลลาร์เป็น 150 ล้านดอลลาร์ การคาดการณ์ของบริษัทได้รับการพิสูจน์ว่าค่อนข้างมองโลกในแง่ดีเกินไป การตอบรับของ Q2 จาก CMP ลดลง 134 ล้านดอลลาร์จากประมาณการ
ในขณะเดียวกัน AMD ได้ใช้แนวทางเดียวกันกับ Intel โดยระบุว่าจะไม่บล็อกการขุด Ethereum บน GPU ของตน และเถียงว่าการขุด Crypto นั้นเป็นส่วนที่ค่อนข้างเล็กในธุรกิจ
อาจเป็นจุดที่สงสัยในระยะยาว ด้วยการเปลี่ยน Ethereum จากกลไกฉันทามติจากการขุดเป็น Proof of stake ด้วยการอัพเกรด Ethereum 2.0 การขุด GPU อาจกลายเป็นอดีตไปแล้ว
