บริษัทต่างๆ ซึ่งรวมถึง Disney, ผู้เผยแพร่วิดีโอเกมชื่อดัง Electronic Arts และ Robinhood Markets คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากโทเค็น NFT ตามรายงานใหม่จาก Citi
“การถือกำเนิดของ NFT เป็นสัญญาณของการ disrupt ต่อภาคส่วนใด ๆ / ทั้งหมดที่มีการสัมผัสกับทรัพย์สินทางปัญญา , ใบอนุญาตและรายได้ที่เกี่ยวข้องกับสินค้า” นักวิเคราะห์ของ Citi Thomas Singlehurst เขียนในรายงานเรื่อง “Disruptive Innovations” โดยสังเกตว่า “ประเด็นสำคัญคือ รูปแบบการกระจายอำนาจและเป็นประชาธิปไตย ช่วยให้เจ้าของเนื้อหาทำหน้าที่ได้ทั้งในแง่ของการแจกจ่ายและการสร้างรายได้”
Citi กล่าวว่า วิดีโอเกมและเพลงเป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มสูงสุดที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกจากการไหลเข้าของ NFT ซึ่งเป็นโทเค็นที่ใช้บล็อคเชนซึ่งจะพิสูจน์ความเป็นเจ้าของเนื้อหาดิจิทัล และการซื้อขายใน NFT นั้นเพิ่มขึ้นเป็น 10.7 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สาม ซึ่งนับว่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 700% จากไตรมาสก่อนหน้า ตามรายงานของ DappRadar บริษัทวิเคราะห์บล็อคเชน
บริษัทอื่น ๆ ในสหรัฐอเมริกาที่คาดว่าจะได้รับความช่วยเหลือจาก NFT ได้แก่ Activision ผู้เผยแพร่วิดีโอเกม, FormulaOne Group, Discovery Inc., ViacomCBS และ World Wrestling Entertainment
บริษัทในยุโรปที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จาก NFT ได้แก่ หน่วยงานต่าง ๆ เช่น ผู้เผยแพร่วิดีโอเกม Embracer Group, Frontier Developments, Team17 Group และ Ubisoft และหน่วยงานโฆษณา Publicis Groupe และ WPP
Citi กล่าวว่าบริษัทเหล่านั้นมุ่งเน้นไปที่การขายเนื้อหาหรือสินค้าที่มีตราสินค้า และมีส่วนร่วมในการสร้างหรือซื้อขาย NFT หรือเป็นบริษัทที่ให้บริการที่ช่วยให้ผู้สร้างเนื้อหาสำรวจตลาด NFT
กลับกัน พื้นที่และบริษัทที่มีแนวโน้มจะได้รับความเสียหายจาก NFT ได้แก่ ผู้ค้าปลีกวิดีโอเกมที่มีหน้าร้านจริง , ค่ายเพลงและผู้เผยแพร่เพลงแบบดั้งเดิม , แพลตฟอร์มการสตรีมวิดีโอและเพลงแบบดั้งเดิม , และระบบนิเวศออนไลน์ “ที่จำกัดผู้ใช้หรือผูกขาด” ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถหลีกเลี่ยงได้หากผู้สร้างเนื้อหามีความสัมพันธ์โดยตรงกับลูกค้ามากขึ้น
“เพื่อความชัดเจน ในแต่ละกรณีการเพิ่มขึ้นของ NFT ไม่น่าจะเป็นจุดสิ้นสุดสำหรับผู้เล่นเหล่านี้ แต่จะเป็นแรงกดดันเนื่องจากเนื้อหาจะมีการกระจายอำนาจ/เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และอาจทำให้เกิดความกดดันเกี่ยวกับรายได้และผลตอบแทน” Singlehurst เขียน