การที่ Visa เข้าสู่ตลาด NFT นั้น ได้รับแรงผลักดันจากการประเมินเทคโนโลยีพื้นฐานและความสามารถในการทำหน้าที่เป็น “สื่อกลางที่มีแนวโน้มสำหรับการมีส่วนร่วมของแฟน ๆ” ตามรายงานฉบับล่าสุดที่เผยแพร่โดยบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการชำระเงินระดับโลก
เอกสาร whitepaper ของ Visa อธิบายว่าโทเค็น NFT ถือเป็นนวัตกรรมที่สำคัญในช่วงการแพร่ระบาดของ Covid ทำให้มีการเข้มงวดในเรื่องของกีฬา ความบันเทิง และเทศกาลดนตรี ในขณะเดียวกัน NFT ก็เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แฟน ๆ ต้องการที่จะเข้าร่วมชุมชนดิจิทัลที่มีศิลปินหรือทีมกีฬาที่พวกเขาชื่นชอบเป็นศูนย์กลาง
กีฬาอาชีพได้รับผลกระทบอย่างหนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการระบาดใหญ่ โดยสูญเสียรายได้ไปประมาณ 18 พันล้านดอลลาร์จากลีกสำคัญ ๆ ทั่วโลก ซึ่งตามข้อมูลของ Visa สิ่งนี้ผลักดัน “ความต้องการในการกระจายรายได้และมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีเพื่อปรับตำแหน่งธุรกิจสำหรับโอกาสในการเติบโตและดึงดูดความสนใจของแฟน ๆ”
ซึ่งในแง่นี้ “NFT สามารถดึงดูดนักสะสม แฟน ๆ ของทีม ลีก และพรสวรรค์” รายงานกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง NFT สามารถกลายเป็นแหล่งที่มาหลักของการมีส่วนร่วมของแฟน ๆ , การจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า , และแหล่งรายได้ใหม่ โดยกรณีการใช้งาน NFT หลักที่ระบุคือของสะสม ศิลปะ และการเล่นเกม
เอกสารไวท์เปเปอร์ได้รับการเผยแพร่พร้อมกับประกาศจาก Visa ว่าได้ซื้อ NFT ตัวแรก นั่นคือ — CryptoPunk 7610 — ในราคา $150,000 โดย CryptoPunks คือชุดของ NFT ที่ไม่ซ้ำกัน 10,000 รายกา รพร้อมหลักฐานการเป็นเจ้าของที่จัดเก็บไว้ในเครือข่าย Ethereum โดยมีการขาย CryptoPunk ไปแล้วทั้งหมด 2,519 รายการในช่วง 30 วันที่ผ่านมา คิดเป็นเงินรวม 467.4 ล้านดอลลาร์ตามข้อมูล โดยยอดขายที่ทำรายได้สูงสุดคือ CryptoPunk 7252 ซึ่งขายได้ 1,600 ETH หรือ 4.5 ล้านดอลลาร์
การเข้าสู่ NFT ของ Visa นั้นแทบจะไม่น่าแปลกใจเลย เนื่องจากบริษัทชำระเงินให้ความสำคัญกับสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทเพิ่งทำข้อตกลงกับแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล Zipmex โดยให้การรวมการชำระเงินด้วยคริปโตเพิ่มเติมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และในเดือนมกราคมของปีนี้ Visa ได้ยืนยันความมุ่งมั่นที่จะสร้างการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลและ fiat on-ramps เพื่อสนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัล