[รีวิว] Future Trading เปิดหนทางสู่การกำไรบน FTX

ปัจจุบันโลกของการลงทุนได้มีการหมุนอยู่ตลอดเวลา จนในบางครั้งก็ทำให้ใครหลายๆคนพลาดโอกาสในการทำกำไรเนื่องจากฟังก์ชันบางตัวนั้นค่อนข้างใหม่และซับซ้อน ทำให้มือใหม่บางคนอาจจะยังงงๆอยู่บ้าง วันนี้แอดมินจึงจะมาหยิบยกตัวอย่างฟังก์ชันยอดฮิตอย่าง Future Trading กันว่ามันมีการทำงานอย่างไร มีความเสี่ยงในจุดไหนที่ควรระวัง  และในขั้นตอนสุดท้ายเราจะมาทดลองเทรดให้ดูกันครับ 

Future Trading คืออะไร?

ฟังก์ชันการใช้งานการเทรด Future นั้นจะเป็นการซื้อขายสัญญากันในอนาคตโดยมีข้อตกลงทางด้านราคาระหว่างกัน ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือก position ที่จะเปิดได้ 2 ด้านคือ 1.Long position หมายถึง เราคาดว่าในอนาคตสินทรัพย์นั้นจะมีราคาที่สูงขึ้น เราจึงทำการซื้อตอนนี้เพื่อขายในราคาที่แพงกว่า 2.Short Position หมายถึง เราคาดว่าในอนาคตสินทรัพย์นั้นจะมีราคาต่ำลง เราจึงทำการยืมสินทรัพย์มาขายและซื้อตอนราคาต่ำมาคืน เพื่อทำกำไรส่วนต่าง

ซึ่งจะสังเกตได้ว่าฟังก์ชันการใช้งานการเทรด Future นั้นสามารถทำกำไรให้เราได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง และยังไม่พอทางกระดานเทรดชั้นนำระดับโลกอย่าง FTX  ซึ่งในปัจจุบัน สามารถใช้ leverage หรือการกู้ยืมเงินเพื่อเพิ่มขนาด position ของเราได้มากสุดที่ 20X หมายความว่าถึงแม้เราจะมีต้นทุนที่ต่ำแต่ก็สามารถทำกำไรได้สูงหลายเท่าตัว ในทางกลับกันถ้าเราเลือก leverage ที่สูงก็มีความเสี่ยงในเรื่องของการโดน liquidate หรือการโดนบังคับขายสัญญาได้สูงตามมา เนื่องจากแกว่งของราคาเพียงเล็กน้อยก็อาจจะมีสิทธิ์ทำให้ผู้ใช้สูญเสียเงินต้นได้ภายในพริบตา ดังนั้นฟังก์ชันนี้จึงถือว่าค่อนข้างโหดพอสมควรผู้ใช้งานจึงควรศึกษาเงื่อนไขอย่างละเอียด และบริหาร position ไม่ให้มีขนาดใหญ่และใช้ leverage ที่สูงจนเกิดไปเพื่อลดความเสี่ยง 

กระดานเทรด FTX

FTX คือแพลตฟอร์มสำหรับเทรด Cryptocurrency โดยเน้นไปทางด้านการเทรดอนุพันธ์ หรือ Future Trading นั่นเองซึ่งตัวของ FTX ได้สร้างขึ้นด้วยแนวคิดที่ว่า “แอปเทรดที่สร้างโดยผู้เทรด เพื่อผู้เทรดอย่างแท้จริง” ซึ่ง FTX ยังถูกออกแบบมาให้มีเครื่องมีที่ครอบคลุมสำหรับนักเทรดมืออาชีพและในขณะเดียวกันนักเทรดมือใหม่ก็สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย ในปัจจุบันกระดานเทรด FTX ได้มี trading volume ต่อวันอยู่ที่ประมาณ 2.40 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งอยู่ใน Top10 ของจำนวนกระดานเทรดทั้งหมด ก็คงจะไม่เกินจริงนักถ้าจะเรียก FTX ว่ากระดานเทรดชั้นนำระดับโลก และที่สำคัญยังรองรับภาษาไทยอีกด้วย

ผลิตภัณฑ์ Future ของ FTX 

ผลิตภัณฑ์ฟิวเจอร์ของ FTX นั้นมีหลากหลายคู่สัญญาให้ผู้เทรดได้เลือกเทรด เช่น BTC ETH BNB DOGE SOL และอื่นๆอีกมากมาย โดยคู่สัญญาฟิวเจอร์ของ FTX นั้นจะมีแบบ Perpetual (PERP) ซึ่งจะเป็นสัญญาซื้อขายที่ไม่มีวันหมดอายุ และทาง FTX ก็ได้มีคู่สัญญาที่มีวันหมดอายุ เช่น ETH-0924 หมายถึงสัญญานี้จะหมดอายุในวันที่ 24 เดือนกันยายนและในส่วนของ ETH-1231 หมายถึงสัญญานี้จะหมดอายุในวันที่ 31 เดือนธันวาคม อีกทั้งยังมีคู่สัญญา Index เช่น Altcoin Index,Defi Index สำหรับคนที่ถนัดเทรดในภาพรวมอีกด้วย โดยมีระดับ leverage ให้เลือกที่ 5 ระดับได้แก่ 1x, 3x, 5x, 10x, 20x 

ซึ่งการจะเลือกใช้ leverage ถ้าเลือกใช้ในระดับที่สูงก็ควรจะต้องคอย monitor ในส่วนของ position ที่เปิดไว้บ่อยขึ้น เพื่อคอยเช็ค%ที่จะโดน liquidate โดยเลือกได้ว่าจะป้องด้วยการเติมเงินในส่วนค้ำประกันเพิ่มหรือจะเลือกปิด position นั้นไป โดยส่วนตัวแล้วแอดมินไม่แนะนำให้ใช้ leverage ที่สูงมากนักเพราะราคา Cryptocurrency ค่อนข้างมีความผันผวนสูงจึงทำให้มีความเสี่ยงสูงไม่แพ้กัน 

ตัวอย่างของฟังก์ชันการเทรด Future

และนี้ก็เป็นตัวอย่างของการเปิด position ซึ่งแอดมินได้ทดลองเปิด position short BTC ทิ้งไว้ซึ่งหมายความว่าเมื่อราคาของ BTC ลงแอดมินจะได้กำไรแต่ถ้ามันดันขึ้นสวนแล้วเราปิด position ไม่ทันก็คือเงินหายแน่นอนนะจ๊ะ

*เป็นเพียงรูปประกอบเท่านั้นไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน

ขั้นตอนการลงทะเบียนกับ FTX 

1.ขั้นตอนแรกให้เราเข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ของกระดานเทรด FTX แล้วเลือกไปที่ register

หลังจากนั้นกรอกอีเมลที่ต้องการลงทะเบียนพร้อมกับตั้งรหัสผ่าน โดยถ้าเรามี Referral code ก็จะได้รับส่วนลดค่าธรรมเนียม 5% และกดยืนยัน

2.เมื่อเปิดบัญชีใช้งานเรียบร้อยแล้วขั้นตอนถัดมาให้เข้ามาทำการยืนยันข้อมูลส่วนตัว

กรอกข้อมูลตามที่แพลตฟอร์มสอบถามโดยเลือกตอบตามความจริง เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนก็รอระบบทำการตรวจสอบและอนุมัติเพียงเท่านี้เราก็จะสามารถเริ่มเทรดบน FTX ได้อย่างง่ายดาย

การเทรด Future บน FTX

1.เลือกคู่สัญญาที่จะใช้เทรดด้วยฟังก์ชัน Future โดยครั้งนี้แอดมินจะทดลองเทรดในคู่สัญญา BTC/PERP(สัญญาซื้อขายที่ไม่มีวันหมดอายุ)

2.เลือกปรับ leverage ที่เราต้องการ(ไม่แนะนำให้ใช้สูงมาก)

โดยสามารถสังเกตุรายละเอียดได้ทางด้านขวามือ เราจะเห็นว่าเรามีเงินที่จะใช้เป็นหลักประกันอยู่เท่าไหร่และการใช้ leverage 10x ดังข้างต้นก็หมายถึงว่าเราจะถือ position ที่มีมูลค่าเป็น 10 เท่าจากหลักประกัน

*ระบบจะมีการคำนวณ Funding rate ซึ่งพูดง่ายๆคือเมื่อเราเปิด position แบบฟิวเจอร์ที่ไม่มีวันหมดอายุนั้น Fuding rate จะเป็นเหมือนเรตเพื่อจ่ายค่าเสียโอกาสให้แก่คนกลางเพราะในกรณีที่เราเปิด position ยาวแบบไม่มีกำหนดเวลา  Fuding rate จึงจะมาชดเชยส่วนตรงนี้ให้

3.เลือกคำสั่งว่าต้องการเปิด long position หรือ short position หลังจากนั้นเลือกจำนวนเงินที่จะใช้

ระบบจะขึ้นขนาด position รวมบอกว่าเราสามารถใช้ USD ที่ leverage มาได้สูงสุดจำนวนเท่าไหร่ โดยข้างต้นเราเลือกที่ 10x ดังนั้นก็จะมีมูลค่ารวมของ position ที่ประมาณ 120.99 usd และถ้าเราจะเปิด short position เพราะคาดการณ์ว่า อนาคต BTC จะราคาลง(เราจะทำการขายแพงและซื้อถูกกลับมาคืนเพื่อทำกำไร) ถ้าเกิดราคา BTC ลงไปตามคาดก็จะได้กำไรในสัดส่วน 10 เท่าของเงินต้น กลับกันถ้าเราคาดการผิดทางก็อาจจะสูญเสียเงินต้นทั้งหมดได้  

4.เลือก Limit order หรือ Marker order เพื่อเลือกราคาที่เราจะเปิดคำสั่ง

หลังจากที่เราเข้าใจและยอมรับความเสี่ยงแล้วก็เลือกราคาที่เราต้องการเปิด position ณ ราคานั้น

ถ้าเลือกไปที่ market order จะเป็นราคาตลาดปัจจุบัน ส่วน limit order เราจะสามารถเลือกราคาที่ต้องการเปิดคำสั่งได้ เมื่อเลือกเสร็จแล้วก็ทำการเปิด short position ด้วยการกด sell ได้เลย

5.เท่านี้การเปิดคำสั่งในฟังก์ชัน Future Trading บน FTX ก็เสร็จเรียบร้อยครับ

โดยเราสามารถตรวจสอบหรือ monitor position ของเราได้จากจอแสดงผลด้านล่างของจอดังรูป

ซึ่งจะแสดงรายละเอียดของคู่สัญญาที่เราเปิดอยู่ ว่าเราเปิดสัญญาที่คู่ไหนมีขนาด position เท่าไหร่ และจะบอกราคาที่จะโดน liquidate  ส่วน PnLจะเป็นจำนวนที่บอกว่าเรากำไรหรือขาดทุนอยู่เท่าไหร่  และผู้ใช้งานสามารถเลือกปิด position ได้ตลอดเวลา

สรุป

โดยรวมสำหรับแอดมินแล้วกระดานเทรด FTX ถือว่าใช้งานค่อนข้างง่ายและมีวอลลุ่มเทรดต่อวันที่สูงเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งครอบคลุมผู้ใช้งานมือใหม่รวมไปถึงนักเทรดรุ่นเก๋า อีกทั้ง FTX ยังให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ด้านอนุพันธ์หรือ Future Trading เป็นหลัก ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลงของตลาด โดยเลือกปรับ leverage สูงสุดได้ที่ 20x  

FTX มีคู่สัญญาฟิวเจอร์ 2 รูปแบบ ได้แก่ 1.Perpetual (PERP) ซึ่งจะเป็นสัญญาซื้อขายที่ไม่มีวันหมดอายุ และ 2.คู่สัญญาที่มีวันหมดอายุ อีกทั้งยังมีคู่สัญญา Index ให้เทรดอีกด้วย  

ในอีกมุมฟังก์ชันนี้ก็ถือว่าค่อนข้างโหดพอสมควรผู้ใช้งานจึงควรศึกษาเงื่อนไขและความเสี่ยงอย่างละเอียด เพื่อบริหาร position ไม่ให้มีขนาดใหญ่และใช้ leverage ที่สูงจนเกิดไปจนอาจทำให้สูญเสียเงินต้นทั้งหมดได้

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin

Radius

ผู้เชี่ยวชาญการเขียนข่าว บทความ ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin , คริปโตเคอเรนซี่ และ Blockchain ทั้งในไทยและต่างประเทศ อัพเดทราคา มุมมองการลงทุน ใหม่ล่าสุดทุกวัน
ข่าวต่อไป