ShapeShift บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี (cryptocurrency) ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 โดย Erik Voohees ประกาศในวันนี้ว่าจะเปลี่ยนไปสู่ Decentralized Exchange และจะค่อยๆ ปิดกิจการของบริษัท และจะเปลี่ยนการควบคุมไปเป็นผู้ใช้และกลายเป็น DEX ที่ช่วยให้ซื้อขายได้โดยไม่ต้องใช้คนกลาง
ปัจจุบัน ShapeShift มีพนักงาน 65 คน โดยในอนาคตบริษัทจะยุบโครงสร้างองค์กรทั้งหมด ไม่มีพนักงาน ไม่มีบัญชีธนาคาร และไม่มี CEO โดยใช้เวลาประมาณ 4 ถึง 12 เดือน ตามข้อมูลของ Voorhees
FOX Token จะถูกแจกจ่ายในวงกว้างไปยังผู้ใช้ ShapeShift ทั้งในปัจจุบันและในอดีตกว่า 1 ล้านราย เจ้าของกระเป๋าสตางค์ฮาร์ดแวร์ KeepKey และผู้ใช้โปรโตคอล DeFi อื่น ๆ
จำนวนโทเค็นที่มอบให้กับผู้ใช้ ShapeShift แต่ละคน จะขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งที่พวกเขาใช้งาน DEX ก่อนวันที่ 9 มิถุนายน โดยจะแจก 200 FOX สำหรับผู้ใช้ที่ทำการซื้อขาย 1 ถึง 4 ครั้ง ไปจนถึง 8,500 FOX สำหรับผู้ใช้ที่ทำการซื้อขาย 100 ครั้งขึ้นไป และการแจกโทเค็น FOX ยังรวมถึงผู้ใช้ ShapeShift ที่ถือ crypto ไว้ในกระเป๋าเงินบนแพลตฟอร์มก่อนวันที่ 9 มิถุนายน รวมถึงลูกค้า KeepKey ที่เชื่อมต่อบัญชีของตนกับ ShapeShift , ผู้ใช้ THORChain และผู้ถือโทเค็น RUNE ERC-20
นอกจากนี้ยังรวมถึงผู้ใช้ Uniswap , Compound, SushiSwap , Aave และอื่นๆ โดยจะแจก 200 FOX ให้กับผู้ใช้ทั้งหมดมากกว่า 120,000 รายที่ถือโทเค็นมูลค่า 1,500 ดอลลาร์ขึ้นไปในวันที่ 9 มิถุนายน ซึ่งรายละเอียดทั้งหมด เกี่ยวกับวิธีการรับ airdrop มีอยู่ในเว็บไซต์ shapeshift
ShapeShift จะเริ่มเปิด liquidity mining ในวันที่ 16 กรกฎาคม โดยจะมอบรางวัลเป็นโทเค็น FOX ให้กับผู้ใช้ที่เพิ่มสภาพคล่องให้กับ pool FOX/ETH ที่ Uniswap V2 หรือถือโทเค็น FOX-ETH-UNI-LP ไว้ในกระเป๋าเงิน โดยจะมีการแจกจ่ายโทเค็น FOX มากกว่า 15.7 ล้านรายการในช่วงสามเดือน จากนั้นชุมชน ShapeShift จะลงคะแนนว่าจะดำเนินการต่อหรือเปลี่ยนแปลงโปรแกรม
ราคาของ FOX เพิ่มขึ้น 125% จนถึงวันนี้ ตามรายงานของ CoinGecko โดยสูงสุดที่ 0.67 ดอลลาร์ต่อเหรียญ
Voorhees กล่าวว่าพนักงานที่มีอยู่ของ ShapeShift จะไม่ได้รับเช็คเงินเดือนอีกต่อไป แต่จะได้รับ “เงินช่วยเหลือก้อนโต” ของโทเค็น FOX ซึ่งจะมอบให้ในช่วงสามปีถัดไป โดยพวกเขามี “อิสระในการตัดสินใจ” ระดับการมีส่วนร่วมในโครงการกระจายอำนาจ และตัว Voorhees เองจะเป็นผู้ถือโทเค็น FOX ที่ใหญ่ที่สุดโดยถือทั้งหมด 5% ของ Supply ทั้งหมด ซึ่งจะปลดล็อคบนเครือข่ายในอีกสามปีข้างหน้า
อ้างอิง : LINK