แสนสิริ (SIRI) จับมือ XSpring โชว์จุดแข็งด้านการเงินและอสังหาฯของ 2 พันธมิตรเหนือคู่แข่ง ล่าสุดเปิดรับสกุลเงินดิจิทัล ใช้คริปโทซื้อที่อยู่อาศัยของแสนสิริได้ทุกโครงการ!! พร้อมยังใช้จ่ายค่าส่วนกลางโครงการได้ ครั้งแรกของวงการอสังหาฯ รับตลาดคริปโท โตก้าวกระโดด พุ่งกว่า 1.16 ล้านบัญชี เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ให้ความสนใจในตลาดคริปโท ที่ทุกคนเข้าถึงได้
เผยจุดแข็งเหนือคู่แข่ง ซื้อบ้าน – คอนโดฯ แสนสิริ รวมถึงจ่ายค่าส่วนกลางได้ทุกโครงการ พร้อมเปิดรับทุก Wallet ไม่จำกัด และคอนเฟิร์มเรตได้ภายใน 5 นาที ด้วยคริปโทถึง 4 สกุลเงินดิจิทัล ได้แก่ Bitcoin, Ethereum (ETH) , USDC และ USDT ผ่าน Bitazza (บิทาซซ่า) โบรกเกอร์-ดีลเลอร์ที่มีเครือข่ายทั้งในไทยและทั่วโลก เพื่อเป็นทางเลือกและเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า
พร้อมโชว์ศักยภาพจุดแข็งด้านการเงินและอสังหาฯ ของสองพันธมิตร ผนึก XSpring Digital ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในด้านการใช้เหรียญคริปโทซื้ออสังหาฯ แก่ลูกค้า
ระบุ กฎหมายยังไม่เปิดช่องต่างชาติยังซื้ออสังหาฯ ไทยผ่านคริปโท แต่พร้อมลุยทันทีหากภาครัฐไฟเขียว จากจุดแข็งของแสนสิริ ที่ครองยอดขายอันดับหนึ่งในตลาดต่างชาติ ด้วยตัวเลขกว่า 14,000 ล้านบาทต่อปี พร้อมฐานลูกค้าต่างชาติที่พร้อมรองรับอยู่ในมือ
มั่นใจ!! ความแข็งแกร่งของแสนสิริในภาคอุตสาหกรรม ในฐานะผู้นำที่มีรายได้สูงสุดในตลาดอสังหาริมทรัพย์ 34,707 ล้านบาท ภายใต้การพัฒนาโครงการมูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท และจำนวน database ฐานลูกค้าในมือกว่า 100,000 ราย ทำให้มองเห็นโอกาสเติบโตที่สร้างรายได้เพิ่ม พลิกการเปลี่ยนแปลงของโลกบริการทางการเงินดิจิทัล หรือ Digital Financial Service และการใช้ คริปโทซื้ออสังหาฯ ที่เกิดขึ้นได้จริง
นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) เปิดเผยว่า แสนสิริประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทยและเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรรายเดียวของประเทศที่มีรายได้สูงสุดในตลาดอสังหาริมทรัพย์ 34,707 ล้านบาทได้รับการตอบรับในแบรนด์ที่แข็งแกร่งในต่างประเทศ ทั้งจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน และญี่ปุ่น ครองอันดับหนึ่งด้วยยอดขายในตลาดต่างชาติสูงสุดกว่า 14,000 ล้านบาทต่อปี ความแข็งแกร่งในธุรกิจของแสนสิริมาจากการมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานความไว้วางใจและเชื่อมั่นจากลูกค้าจนส่งผลให้เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน ส่งผลให้แสนสิริมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าทั้งในด้านการขายและโอนโครงการ ล่าสุดแสนสิริได้ขยับล้ำหน้าไปอีกก้าว ด้วยการเปิดรับสกุลเงินดิจิทัล ใช้คริปโทซื้อที่อยู่อาศัยของแสนสิริได้ทุกโครงการ!! พร้อมยังใช้จ่ายค่าส่วนกลางโครงการได้ตลอดทุกปี ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย
“ความแข็งแกร่งของแสนสิริในภาคอุตสาหกรรม ในฐานะผู้นำที่มีรายได้สูงสุดในตลาดอสังหาริมทรัพย์ 34,707 ล้านบาท ภายใต้การพัฒนาโครงการมูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท และจำนวน database ฐานลูกค้าในมือกว่า 100,000 ราย ทำให้มองเห็นถึงโอกาสจากการเปิดรับสกุลเงินดิจิทัล โดยใช้คริปโทในการซื้อที่อยู่อาศัยของแสนสิริ พร้อมยังเปิดรับในการจ่ายค่าส่วนกลางโครงการได้ ซึ่งจะเป็นอีกก้าวของการเติบโตในการสร้างรายได้เพิ่มและพลิกการเปลี่ยนแปลงของโลกบริการทางการเงินดิจิทัล หรือ Digital Financial Service และการใช้คริปโทซื้ออสังหาฯ ที่เกิดขึ้นได้จริง โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ให้ความสนใจในตลาดคริปโทที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ และความน่าสนใจในตลาดคริปโทที่มีอัตราการเติบโตที่ก้าวกระโดด โดยล่าสุดมีจำนวนบัญชีผู้ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 เพิ่มขึ้นล่าสุดถึง 1.16 ล้านบัญชี” นายเศรษฐา กล่าว
สำหรับจุดแข็งเหนือคู่แข่งของการเปิดรับสกุลเงินดิจิทัลในการซื้อที่อยู่อาศัยของแสนสิริคือ สามารถใช้คริปโท ซื้อบ้าน – คอนโดมิเนียมของแสนสิริได้ทุกโครงการ รวมถึงยังใช้จ่ายค่าส่วนกลางได้ตลอดทุกปีสำหรับโครงการที่บริหารโดยพลัส พร็อพเพอร์ตี้ โดยเปิดรับทุก Wallet ไม่จำกัดและสามารถคอนเฟิร์มเรตได้ภายในระยะเวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น เปิดรับคริปโทถึง 4 สกุลเงินดิจิทัล ได้แก่ Bitcoin, Ethereum (ETH) , USDC และ USDT ผ่านทาง Bitazza (บิทาซซ่า) โบรกเกอร์-ดีลเลอร์ที่มีเครือข่ายทั้งในไทยและทั่วโลก ในฐานะพาร์ทเนอร์ที่ช่วยเปิด Wallet มีความตั้งใจสนับสนุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน อีกทั้งช่วยให้แสนสิริรับชำระเป็นคริปโทเคอร์เรนซีซึ่งไม่จำกัดอยู่แค่ในประเทศไทย ในขณะเดียวกันมอบความสะดวกสบายด้านไลฟ์สไตล์ให้กับผู้ใช้งานแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลของบิทาซซ่า โครงการนี้เป็นหนึ่งในความตั้งใจผลักดันให้เทคโนโลยีบล็อกเชนกลายเป็นที่รู้จักและรับรู้ในวงกว้างโดยจะเริ่มจากการใช้งานภายในประเทศไทยเป็นที่แรกก่อนที่ขยับขยายออกสู่ต่างประเทศ
นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถเลือกสัดส่วนในมูลค่าของการใช้คริปโทในการซื้อที่อยู่อาศัยของแสนสิริได้ อาทิ ลูกค้าต้องการซื้อคอนโดมิเนียม THE MUVE บางนา ราคา 1.29 ล้านบาท สามารถเลือกใช้คริปโทเป็นเงินจอง และส่วนที่เหลือสามารถกู้ซื้อผ่านธนาคารได้ตามความต้องการอีกด้วย เพื่อเป็นทางเลือกและเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ให้ความสนใจในตลาดคริปโทที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ขณะที่แสนสิริก็มีโครงการที่ตอบรับไลฟ์สไตล์กลุ่มคนรุ่นใหม่ อาทิ แบรนด์ THE MUVE, XT, สิริ เพลส และอณาสิริ เป็นต้น
แสนสิริยังได้ความร่วมมือจาก Strategic Partner ที่แข็งแกร่ง โดยมี XSpring Digital ในฐานะกลุ่มธุรกิจการเงินและหลักทรัพย์ผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจรที่เชื่อมโลกการเงินปัจจุบันและโลกบริการทางการเงินดิจิทัลหรือ Digital Financial Service ไว้ด้วยกันรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในด้านการใช้เหรียญคริปโทซื้ออสังหาฯ แก่ลูกค้าอีกด้วย โดยแสนสิริจะเริ่มให้บริการซื้อที่อยู่อาศัยในทุกโครงการของแสนสิริผ่านคริปโทได้ในเดือนกรกฎาคมนี้
สำหรับโอกาสในการเปิดให้ชาวต่างชาติซื้อที่อยู่อาศัยของแสนสิริ ผ่านคริปโทนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า “ปัจจุบัน ต่างชาติยังซื้ออสังหาฯ ไทยผ่านคริปโทไม่ได้ เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายมารองรับ แต่หากภาครัฐไฟเขียว เราก็พร้อมรุกเปิดรับสกุลเงินดิจิทัลซื้อที่อยู่อาศัยแสนสิริในตลาดต่างชาติได้ทันที จากความแข็งแกร่งในตลาดต่างชาติของแสนสิริที่ครองยอดขายอันดับหนึ่งในตลาดต่างชาติ ด้วยตัวเลขกว่า 14,000 ล้านบาทต่อปีในช่วงที่ผ่านมา พร้อมมีฐานลูกค้าต่างชาติที่พร้อมรองรับอยู่ในมืออยู่แล้ว”