ในส่วนถัดไปคือของการเป็นชาวนาดิจิทัลคือการฟาร์มด้วย Cryptocurrncy ที่มีมูลค่าผันผวน ซึ่งเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงมากขึ้นแต่มันก็แลกมาด้วยผลตอบแทนที่มากขึ้นเช่นกัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณรับมันได้หรือเปล่า ถ้าให้เราอธิบายคร่าว ๆ คือหากคุณเป็นคนที่คิดอยากได้กำไรจากการถือเหรียญเฉย ๆ การที่คุณเอาเหรียญเหล่านี้มาฟาร์มจะมีความเสี่ยงบางอย่างที่คุณอาจไม่คาดคิดมาก่อน
ทำความเข้าใจเรื่อง AMM
ในตอนที่แล้วเราจะได้เล่าถึงการฟาร์มด้วย Stablecoin ซึ่งหากใครที่ไม่ได้คิดจะฟาร์มด้วย Cryptocurrency ที่สามารถผันผวนได้จริง ๆ อาจจะไม่ต้องสนใจในจุดนี้ แต่หากคุณคิดจะฟาร์มด้วยเหรียญที่มูลค่าสามารถผันผวนได้ AMM เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ โดยแพลทฟอร์มอย่าง Uniswap หรือ Pancake Swap นั้นเป็น Decentralized Exchange (DEX) แบบ Automate market maker (AMM)
![](https://bitcoinaddict.org/wp-content/uploads/2021/02/23-2-2564-15-33-42.png)
ซึ่งเว็บเทรดแบบ DEX นี้จะเป็นคนละแบบกับเว็บเทรดแบบ Order Booking ที่เหมือนกับเวลาเราซื้อขายใน Exchange ปกติที่เราสามารถตั้งราคาซื้อขายได้ แต่ในลักษณะของ AMM นั้นราคาของเหรียญจะถูกกำหนดโดยสัดส่วนของเหรียญที่อยู่ใน Pool ของเหรียญนั้นๆ
![](https://bitcoinaddict.org/wp-content/uploads/2021/02/23-2-2564-15-34-23.png)
ตัวอย่างเช่น ถ้าเราฝากเหรียญไว้ในแพลตฟอร์ม AMM เช่น uniswap หรือ pancakeswap ด้วยคู่เหรียญ A:USDT โดยเราฝากเข้าไป 100 A และ 100 USDT ใน Pool ที่เป็นคู่เหรียญนี้ AMM จะทำการกำหนดราคาของเหรียญ A โดยนี้คู่กับสัดส่วนเหรียญของ USDT ที่อยู่ใน Pool และนั่นเท่ากับว่าเหรียญ A จะมีมูลค่าเท่ากับ 1 USDT
ทำความเข้าใจเรื่อง Price Impact
![](https://bitcoinaddict.org/wp-content/uploads/2021/02/23-2-2564-15-35-22.png)
โดยสมการที่ควบคุมราคาเหรียญของแพลตฟอร์ม AMM ทั่วไปนั้นคือสมการ x * y = k เนื่องจากสมการนี้เป็นสมการที่เรียบง่ายมาก ๆ แต่ก็แลกมาด้วยการที่ว่าประสิทธิภาพของ AMM นั้นไม่ได้ดีในแง่ของการซื้อขาย ซึ่งเราจะเรียกมันว่า Price Impact
ตัวอย่างเช่นเราต้องการจะทำการซื้อขาย DAI-ETH ใน Uniswap โดยใน pool นั้นมี 100,000 DAI และ 1,000 ETH ถ้าเราคิดตาม Common Sense แล้วเราควรจะใช้เงิน 100 Dai ในการซื้อ 1 ETH (100 dai/eth) แต่ถ้าเราต้องการซื้อ 10 ETH หล่ะ? ผลที่ได้นั้นไม่ใช่แค่เราใช้ 1000 dai แต่มันกลับกลายเป็น 1010.1 dai
![](https://bitcoinaddict.org/wp-content/uploads/2021/02/23-2-2564-15-37-02.png)
นั้นเป็นเพราะแพลตฟอร์ม AMM ถูกออกแบบมาให้มีการ Rebalance จากสมการ x*y=k เพราะฉะนั้นเมื่อเราซื้อ Volumn ที่มากเท่าไหร่จาก Uniswap เราจะยิ่งได้ราคาที่แย่ลงขึ้นกับว่าอัตราส่วน Volumn ที่เราซื้อกับ Liquidity ทั้งหมดใน Pool เป็นเท่าไหร่ยิ่ง Pool มี Liquidity มากเรายิ่งเสี่ยงน้อย
สรุปสั้นๆ: ถ้าจะพูดง่าย ๆ คือการที่เราจะทำการแลกเปลี่ยนใน AMM เราควรทำการแลกเปลี่ยนในปริมาณไม่เกิน 2% ของ Pool ไม่งั้นเราจะต้องซื้อแพงมากๆ
Impermanant Loss ค่าเสียโอกาสในการลง Pool
ทีนี้ถ้าเราเข้าใจเรื่อง Price Impact แล้วเราจะเข้าใจว่า AMM นั้นมันมีข้อเสียในแง่การซื้อขายอยู่ จากสมการ x*y=k เมื่อเทียบกับระบบ Order Booking ทำให้เมื่อเราฝากเหรียญที่มีมูลค่าผันผวนได้ลงไปใน Pool เราจะมีค่าเสียโอกาสที่เรียกว่า Impermanant Loss ในกรณีที่ราคาผันผวน เช่น
สมมติว่าถ้าเราฝาก ETH มูลค่า 100 USD ที่ราคา ETH 100 USD กับ Dai มูลค่า 100 USD ในอัตราส่วน 50:50 เราจะมีเงินใน Pool มูลค่า 200 USD
![](https://bitcoinaddict.org/wp-content/uploads/2021/02/23-2-2564-15-38-47.png)
แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าราคาของ ETH พุ่งไป 20% เป็น 120 USD ในทันที ถ้าเราคิดตาม Common Sense ก็คือเราจะมีเงินใน Pool มูลค่า 220 USD
![](https://bitcoinaddict.org/wp-content/uploads/2021/02/23-2-2564-16-00-24.png)
แต่มันไม่ใช่แบบนั้นเมื่อเกิดความผันผวนของคู่เหรียญ AMM จะทำการ Rebalance ให้คู่เหรียญมีมูลค่าเท่ากัน และมันไม่ได้ทำงานดีเท่ากับการซื้อขายแบบ Order Book ทำให้มี loss เกิดขึ้น
เพราะฉะนั้นเงินของเราใน Pool จะไม่ได้มีมูลค่า 220 USD แต่เป็น 219.09 USD
Note: จุดนี้เองทำให้ Pool อาจไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการ Hold เหรียญใดเหรียญหนึ่งเพราะ เช่นถ้าหากเราต้องการถือ ETH เมื่อ ETH ราคาขึ้น ETH บางส่วนจะถูกเทขายทำให้จำนวน ETH เราลดลง (กลับกัน ETH ของเราจะเพิ่มขึ้นหาก ETH ราคาลง)
ซึ่งเงิน 1 USD ที่ว่านี้จะถูกเรียกว่า Impermanent Loss คล้ายๆกับค่าเสียโอกาสของการฝาก Pool เมื่อเทียบกับการที่เราถือเฉยๆ
- ถ้าราคาเปลี่ยนแปลง 1.25x เราจะเสียกำไรไป 0.6% เมื่อเทียบกับการถือ
- ถ้าราคาเปลี่ยนแปลง 1.50x เราจะเสียกำไรไป 2.0% เมื่อเทียบกับการถือ
- ถ้าราคาเปลี่ยนแปลง 1.75x เราจะเสียกำไรไป 3.8% เมื่อเทียบกับการถือ
- ถ้าราคาเปลี่ยนแปลง 2x เราจะเสียกำไรไป 5.7% เมื่อเทียบกับการถือ
- ถ้าราคาเปลี่ยนแปลง 3x เราจะเสียกำไรไป 13.4% เมื่อเทียบกับการถือ
- ถ้าราคาเปลี่ยนแปลง 4x เราจะเสียกำไรไป 20.0% เมื่อเทียบกับการถือ
- ถ้าราคาเปลี่ยนแปลง 5x เราจะเสียกำไรไป 25.5% เมื่อเทียบกับการถือ
ซึ่งหลักการของ Impermanant Loss นี้สามารถถูกใช้ได้ทั้งในขาขึ้นและลงซึ่งหากเราฝากเหรียญแล้วราคาเหรียญลงเราอาจจะโดนทั้งการขาดทุนและ Impermanat Loss ตามสูตร
divergence_loss = 2 * sqrt(price_ratio) / (1+price_ratio) — 1
สรุปสั้นๆ: ถ้าเราเอาเหรียญที่มีมูลค่าผันผวนไปลง Pool เรามีความเสี่ยง 2 อย่าง
- จำนวนเหรียญที่เราฝากจะมีจำนวนลดลงถ้าราคาเหรียญนั้นขึ้นหรือจำนวนเพิ่มขึ้นเมื่อเหรียญราคาลง
- มูลค่าของเงินที่เราฝากนั้นจะกำไรน้อยกว่าการถือเฉยๆแต่ถ้าขาดทุนจะขาดทุนสองทั้งเหรียญราคาลงและ Impermananct Loss กว่าการถือเฉยๆ
ฝากคู่เหรียญไหนดี
![](https://bitcoinaddict.org/wp-content/uploads/2021/02/23-2-2564-16-04-41.png)
จริง ๆ แล้วถ้าเรามองว่าเราต้องการผลตอบแทนสูงสุดจากคู่เหรียญ เราควรฝากเหรียญที่มีความเสี่ยงน้อย ๆ เช่นเหรียญ Stable coin ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น USDC , DAI , USDT , BUSD เป็นต้น เพื่อลดความเสี่ยงจาก Impermanct Loss แต่อย่างไรก็ตามบางครั้งในคู่เหรียญที่มีมูลค่าผันผวนก็ให้ผลตอบแทนค่อนข้างน่าสนใจมากจนชดเชย Loss ที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ใครที่คิดจะลงเงินใน Pool อย่าง Uniswap หรือ Pancakeswap ควรจะพิจารณาเอาไว้
Note1: เช็คผลตอบแทนจากค่าธรรมเนียมได้ที่ uniswap.info หรือ pancakeswap.info
Note2: จริงๆแล้วในแพลตฟอร์ม AMM อื่น ๆ เช่น balancer หรือ Curve จะไม่ได้ใช้สมการ x*y=k ซึ่งมีการจัดการ Impermanant Loss ที่ดีกว่า (แต่ค่าธรรมเนียม Gas แพงมาก เพราะทำงานอยู่บน ETH Chain)