MicroStrategy Inc. ซึ่งเป็น บริษัท ข่าวกรองธุรกิจที่จดทะเบียนใน Nasdaq ได้ซื้อ Bitcoin จำนวน 38,250 BTC ในราคารวม 425 ล้านดอลลาร์ ซึงอาจถือว่าเป็นการเดิมพันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือไม่?
MicroStrategy เข้าสู่ Bitcoin เมื่อใดและอย่างไร
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม MicroStrategy Inc. (NASDAQ: MSTR) บริษัทข่าวกรองทางธุรกิจประกาศผ่านข่าวประชาสัมพันธ์ ว่าได้ “ซื้อ 21,454 bitcoin ในราคารวม 250 ล้านดอลลาร์” เพื่อใช้เป็น “สินทรัพย์สำรองหลัก”
Michael J.Saylor ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ MicroStrategy กล่าวในเวลานั้นว่า:
“การลงทุนครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อของเราที่ว่า Bitcoin อยู่ในฐานะสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางที่สุดในโลก เป็น store of value ที่เชื่อถือได้และเป็นสินทรัพย์การลงทุนที่น่าสนใจและมีศักยภาพในการเพิ่มมูลค่าในระยะยาวมากกว่าการถือเงินสด”
“นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา Bitcoin ได้กลายเป็นส่วนเสริมที่สำคัญในระบบการเงินทั่วโลกโดยมีลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งรายย่อยและสถาบัน”
“การตัดสินใจลงทุนใน Bitcoin ในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของปัจจัยในระดับมหภาคที่ส่งผลต่อสภาพทางเศรษฐกิจและธุรกิจที่เราเชื่อว่ากำลังสร้างความเสี่ยงในระยะยาวกับโครงการบริหารเงินขององค์กรของเรา – ซึ่งควรได้รับการแก้ไขในเชิงรุก”
“ปัจจัยระดับมหภาคเหล่านี้รวมถึงวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดจาก COVID -19 และมาตรการกระตุ้นทางการเงินของรัฐบาลที่ไม่เคยมีมาก่อน รวมถึงมาตรการ QE ที่นำมาใช้ทั่วโลก”
“เราเชื่อว่าเมื่อปัจจัยเหล่านี้และปัจจัยอื่น ๆ รวมกัน มันอาจมีผลต่อการอ่อนค่าอย่างมีนัยสำคัญต่อมูลค่าที่แท้จริงในระยะยาวของสกุลเงิน fiat และสินทรัพย์ทั่วไปอื่น ๆ อีกมากมายรวมถึงสินทรัพย์จำนวนมากที่ถือเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานด้านการบริหารเงินขององค์กรด้วย”
จากนั้น ในวันที่ 15 กันยายน CEO ของ MicroStrategy ก็ได้ทวีตว่าบริษัทของเขาได้ซื้อ bitcoin เพิ่มอีก 16,796 BTC
นี่คือสิ่งที่ Barry Silbert ซีอีโอของ Digital Currency Group (DCG) ซึ่งเป็นผู้จัดการสินทรัพย์หลักที่ใหญ่ที่สุดในโลกและบริษัทแท่ของ Grayscale Investments ได้กล่าวถึงการซื้อ Bitcoin ล่าสุดของ MicroStrategy:
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม MicrosStrategy ได้ประกาศผลประกอบการทางการเงินสำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2020 ซึ่งในการแถลงข่าว MicroStrategy ก็ได้กล่าวเกี่ยวกับการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลว่า
“ณ วันที่ 30 กันยายน 2020 ต้นทุนเฉลี่ยและมูลค่าการถือครองโดยเฉลี่ยของ bitcoin ของ MicroStrategy อยู่ที่ประมาณ 11,111 ดอลลาร์และ 9,954 ดอลลาร์ตามลำดับ และ ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2020 MicroStrategy มี 38,250 bitcoin และราคาตลาดของ bitcoin อยู่ที่ประมาณ 13,023 ดอลลาร์”
“เราเชื่อว่าการถือครอง bitcoin ของเราสามารถช่วยให้นักลงทุนของเรามีทรัพย์สินในคลังที่มั่นคงมากขึ้น และเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าเงินสดในสกุลเงินดอลลาร์
“การลงทุนใน bitcoin ของเรายังช่วยให้ MicroStrategy เข้าถึงตลาด crypto ที่กว้างขึ้นและเทคโนโลยีที่มีความซับซ้อนดเพื่อสนับสนุนตลาดที่เป็นอิสระและเปิดกว้าง ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์ทางการเงินหรือดิจิทัล เราได้เห็นประโยชน์ที่น่าทึ่งและไม่คาดคิดจากการลงทุนใน bitcoin และการยกระดับโปรไฟล์ของบริษัทในตลาดที่กว้างขึ้น นี่ถือเป็นประโยชน์ต่อชื่อเสียงบริษัทของเราโดยรวม”
ด้าน Saylor กล่าวว่า
“ผมคิดว่า Square ที่หันมาขาย bitcoin และให้การสนับสนุนในแอปพลิเคชัน Square Cash ถือเป็นเรื่องใหญ่ และตอนนี้ PayPal ก็ได้ประกาศว่าพวกเขากำลังจะรองรับในแอป PayPal ผมคิดว่าเมื่อ PayPal ส่งมอบสิ่งนั้นใน Venmo ในปีหน้านั่นจะเป็นข้อดีอย่างมาก สิ่งที่ผมพูดในหลาย ๆ ครั้งก็คือ bitcoin คือทองคำดิจิทัล”
เมื่อเดือนที่แล้วในระหว่างการสัมภาษณ์ กับ Raoul Pal ทางด้าน Saylor อธิบายว่าแม้บางคนจะคิดอย่างไร แต่ MicroStrategy ก็ไม่มีความคิดในการขายการถือครอง Bitcoin ในเร็ว ๆ นี้: “ผมเห็นบางคนในทวิตเตอร์กล่าวว่า ‘Saylor กำลังจะซื้อและเขาก็จะเทขายมันทิ้ง ซึ่งพวกเขาไม่เข้าใจความคิดในระยะยาว และผมไม่ได้จะขายมัน ‘
MicroStrategy มีกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นมากเพียงใดจากการลงทุน Bitcoin
ตามข้อมูลของ CryptoCompare ปัจจุบัน (ณ เวลา 20:00 UTC ของวันที่ 8 พฤศจิกายน) BTC-USD ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ $ 15,393 ซึ่งเพิ่มขึ้น 3.5% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา: หมายความว่ากำไรทั้งหมดที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจาก 38,250 bitcoin ของ MicroStrategy นั้นอยู่ที่ประมาณ $163,786,500
ผลกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นกว่า 163 ล้านดอลลาร์ในหนึ่งไตรมาสนั้นไม่เลวเลยและไม่เพียงแต่ MicroStrategy เท่านั้นที่ไม่ได้วางแผนที่จะขายการถือครอง BTC ในเร็ว ๆ นี้ บริษัทยัง วางแผนที่จะ “ซื้อ bitcoin เพิ่มเติม” ต่อไปอีกด้วย
อ้างอิง : LINK
