การ์ดจอ RTX 3000 ซีรีส์เรียกเสียงฮือฮาในหมู่นักขุด เนื่องจากคาดว่าจะขุดได้เร็วกว่าถึงสองเท่า

กราฟิกการ์ด Nvidia รุ่นใหม่ RTX 3000 ซีรีส์ กำลังสร้างความฮือฮาในหมู่นักขุดเนื่องจากคาดว่าจะได้รับการปรับปรุงอย่างมากจากรุ่นก่อน ๆ

จากข้อมูลใหม่ดูเหมือนจะเป็นการยืนยันว่า RTX ตัวใหม่สามารถทำ hash rates ได้ที่ประมาณ 100 Megahashes ต่อวินาที สำหรับการขุด Ethereum และ Ethash

นี่จะเป็นการปรับปรุงที่ดีขึ้นมากกว่าสองเท่าของการ์ดระดับบนสุดจำนวนมากที่นำเสนอในตลาดปัจจุบันโดยทั้ง Nvidia และ AMD ตามข้อมูลจาก Whattomine โดยซีรีส์ AMD RX Vega ซีรีส์ 5700 และ RTX 2000 ซีรีส์ก่อนหน้าของ Nvidia มี hash rates ที่ช่วงระหว่าง 40 ถึง 50 MH / s พร้อมกับ light optimizations

การทดสอบเบื้องต้นที่เผยแพร่ทำให้ RTX 3080 และ 3090 ซึ่งเป็นการ์ดระดับกลางถึงสูงอยู่ระหว่าง 90 MH / s ถึง 115 MH / s ขึ้นอยู่กับ GPU และการปรับให้เหมาะสม

Kristy-Leigh Minehan อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีของ Core Scientific และ Genesis Mining กล่าวว่าผลลัพธ์เหล่านี้คาดว่าเป็นผลจากแบนด์วิดท์หน่วยความจำของการ์ด  ตามที่เธอกล่าว “กฎทั่วไป” คืออัตรา Ethereum hash rate คือ 10% ของแบนด์วิดท์หน่วยความจำในหน่วย Gigabytes ต่อวินาที ขณะที่ข้อมูลที่รั่วไหลออกมาบอกว่า RTX 3080 อยู่ในช่วงระหว่าง 700 GB / s ถึง 900 GB / s ในขณะที่ RTX 3090 สามารถเข้าถึงได้มากกว่า 1,000 GB / s

การเพิ่มประสิทธิภาพ memory timings ของ Nvidia สำหรับ Ethereum สามารถทำได้ทันทีด้วยซอฟต์แวร์ ซึ่งจะช่วยขจัดความได้เปรียบในการแข่งขันของ AMD  โดยเธออ้างว่า RTX 3000 ซีรีส์นั้นจะ “ดีกว่า AMD”

เป็นการเปรียบเทียบโดยตรงระหว่าง RTX 3080 กับคู่แข่งที่ใกล้เคียงที่สุดจาก AMD อย่าง Radeon 5700 XT โดย 3080 สามารถหาซื้อได้ในราคาประมาณ $600 ถึง $700 ในขณะที่ 5700 XT ขายในราคาประมาณ $400 ซึ่ง hashes ของ AMD อยู่ที่ประมาณ 51 MH / s ในขณะที่การ์ด Nvidia คาดว่าจะมีความเร็วอย่างน้อย 90 MH / s

อย่างไรก็ตาม Nvidia นั้นกินพลังงานกว่า AMD โดยมีการใช้พลังงานสูงสุด 320 วัตต์ ส่วนการ์ดจาก AMD clocks อยู่ที่ 225 วัตต์ อย่างไรก็ตาม อัตรา hashing ที่สูงขึ้นมากจะชดเชยความแตกต่างของประสิทธิภาพการใช้พลังงานนี้ และเป็นที่น่าสังเกตว่าตัวเลขเหล่านี้ไม่น่าจะถูกต้องทั้งหมดสำหรับการใช้งานการขุดจริง

ในขณะที่นักขุดจำนวนมากที่อยู่ในปประเทศที่มีค่าไฟฟ้าแพง มักจะมองเฉพาะประสิทธิภาพการใช้พลังงาน แต่นักขุดมืออาชีพก็ให้ความสำคัญกับราคาต่อหน่วยเป็นอย่างมาก “ทั้งสามมีความสำคัญ” Minehan กล่าวโดยอ้างถึง hash rate, ราคา และการใช้พลังงาน

โดยสรุปแล้ว RTX 3000 ซีรีส์ใหม่ของ Nvidia ดูเหมือนจะแข่งขันกับ AMD ในด้านการขุด Ethereum ได้ดีตรงกันข้ามกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง RTX 2000 series และ GTX 1000 series ที่มีราคาแพงกว่า AMD ในขณะที่มีอัตราแฮชเท่ากันหรือต่ำกว่า

อ้างอิง : LINK

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin

Radius

ผู้เชี่ยวชาญการเขียนข่าว บทความ ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin , คริปโตเคอเรนซี่ และ Blockchain ทั้งในไทยและต่างประเทศ อัพเดทราคา มุมมองการลงทุน ใหม่ล่าสุดทุกวัน
ข่าวต่อไป