เนื่องจากความสนใจใน smart contracts เพิ่มสูงขึ้น Bitcoiners บางคนจึงถามว่า ทำไม Bitcoin ( BTC ) ถึงไม่สามารถเป็นรากฐานสำหรับ smart contracts ด้วยเช่นกัน เพื่อแทนที่ Ethereum ( ETH )
Muneeb Ali ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของแพลตฟอร์ม Blockstack เชื่อว่าวิธีที่ดีที่สุด “คือการนำมาซึ่งแอปพลิเคชันและ smart contracts ให้กับเครือข่าย Bitcoin ในลักษณะที่ใช้ Bitcoin เป็นสกุลเงินสำรอง และ blockchain อันทรงพลังของมันในฐานะกลไกความปลอดภัย”
Aliอ กล่าวว่า Bitcoin เป็นราชาแห่ง blockchain มานานกว่าทศวรรษ เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่ต่างยอมรับว่าเครือข่าย Bitcoin นั้น “ไร้คู่แข่ง” เมื่อพูดถึงเรื่องความปลอดภัย:
“เราเชื่อว่า Stacks 2.0 blockchain ซึ่งปัจจุบันอยู่ใน testnet ถือเป็นทางออกหนึ่งที่ทำให้ Bitcoin เป็นรากฐานสำหรับ smart contract ใน Web 3.0 ด้วย Clarity smart contract programming และกลไก Proof of Transfer ทำให้ผู้พัฒนาสามารถสร้าง smart contract ในภาษาที่ปลอดภัยกว่า”
Bitcoin ได้รับการยอมรับว่าเป็นเครือข่ายที่ปลอดภัย ในขณะที่ Ethereum เป็น “ผู้นำ” เมื่อพูดถึง smart contract ผู้ก่อตั้ง Blockstack ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า
“ภาษาสคริปต์ที่มีจำกัดของ Bitcoin ทำให้ผู้พัฒนาที่ต้องการสร้าง dapps หรือปรับใช้ smart contracts ต้องไปจบลงด้วยการสร้าง blockchain ของตัวเอง หวังที่จะ bootstrap โปรโตคอล proof-of-work ดั้งเดิมหรือ proof-of-stake แต่สิ่งเหล่านี้มีความปลอดภัยน้อยกว่ามาก หนึ่งในผลลัพธ์คือนักพัฒนาคิดว่า Ethereum นั้นเหมาะสำหรับการเปิดตัว smart contract แต่ผมเชื่อว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นก่อนเวลาอันควร “
Ali ยังชี้ให้เห็นว่าอนาคตของอินเทอร์เน็ตจะไม่เป็น “ความสะดวกสบายในการรักษาความปลอดภัย” แต่จะผูกความปลอดภัยนั้นกับเว็บแอปพลิเคชันในลักษณะที่ใช้ Bitcoin เป็นสกุลเงินสำรองพร้อมกับ blockchain เป็นกลไกความปลอดภัย
DeFi บนเครือข่าย Bitcoin
ในยุคเว็บ 3.0 Ali คิดว่าความพิเศษคือ “การสนทนาที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของ ‘DeFi on the Bitcoin’” สำหรับผู้ก่อตั้ง Blockstack หมายถึงผู้คนจำนวนมากกำลังมองหาความปลอดภัยบน Bitcoin เมื่อพูดถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงิน:
“หลายคนคิดว่ามันง่ายกว่าที่จะสร้าง Bitcoin บน Ethereum แต่จริง ๆ แล้วมันสมเหตุสมผลกว่าที่จะสร้างฟังก์ชั่น Ethereum บน Bitcoin ผู้คนเริ่มตระหนักถึงคุณค่าของการสร้างระบบนิเวศของ Bitcoin มากกว่าการขนานไปกับมัน”
อ้างอิง : LINK