Korea Internet Security Agency หรือ KISA หน่วยงานระดับชาติของเกาหลีใต้ด้าน Cybersecurity วางแผนที่จะพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มี AI เพื่อติดตามธุรกรรม cryptocurrency บน Darkweb หลังจากเกิดกรณีของคดีอื้อฉาวทางเพศอย่าง “Nth Room” ขึ้น
ตามรายงานจาก New Daily รัฐบาลได้ดำเนินการเกี่ยวกับโซลูชั่นนี้มาตั้งแต่เดือนมกราคม เนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องเจอกับอุปสรรคที่ยากลำบากในการสอบสวนคดีสื่อลามกเด็กในเกาหลีใต้ หรือ Nth Room ซึ่งผู้คนสามารถซื้อวิดีโอที่มีเนื้อหาทางเพศของผู้เยาว์ได้ผ่านทาง Crypto
KISA กล่าวว่าซอฟต์แวร์ดังกล่าวอาศัยเทคโนโลยี machine-learning ซึ่งจะติดตามธุรกรรม crypto โดยอัตโนมัติใน Darkweb ของเกาหลีใต้ โดยผู้ที่จะดูแลในการดำเนินงานคือสำนักงาน Virtual Asset Handling Office หรือ VASP
ความยากลำบากที่ต้องเผชิญในระหว่างการสอบสวน
Cho Joo-bin ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดี ปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของตำรวจ และปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือกับฝ่ายสืบสวน ซึ่งหมายความว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่นั้นจะยากลำบากมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกรรมจำนวนมากที่ดำเนินการผ่าน Monero ( XMR ) ที่มีการปกปิดตัวตน
เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ศาลเกาหลีใต้สั่งให้มีการระงับกระเป๋าเงินดิจิตอลใด ๆ , เงินฝากหลักทรัพย์และบัญชีหุ้นของ Cho Joo-bin ซึ่งเงินที่ถูกระงับไว้นั้นถูกสงสัยว่าจะมากจากกำไรที่จำเลยได้รับในฐานะผู้เบื้องหลังของคดี Nth Room
อ้างอิง : LINK