แจ็ค หม่า (Jack Ma) ผู้ร่วมก่อตั้งของ “อาลีบาบา” ลาออกจากคณะกรรมการของ SoftBank แล้ว เนื่องจากบริษัทประสบกับภาวะขาดทุนจากการดำเนินงานที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์
ตามรายงานของ Nikkei เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม Softbank ได้รายงานต่อผู้ถือหุ้นและนักลงทุนถึงการขาดทุนสูงสุดในประวัติศาสตร์ของกองทุน Softbank ถึง 1.8 ล้านล้านเยน (16.7 พันล้านดอลลาร์)
นอกจากนี้ Softbank ยังได้ประกาศถึงการลาออกของ แจ็ค หม่า ซึ่งดำรงตำแหน่งคณะกรรมการของ SoftBank มาเป็นระยะเวลา 13 ปี โดยการลาออกจะมีผลตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน
นอกจากนี้ยังมีการเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการใหม่สามคนได้แก่ SoftBank CFO Yoshimoto Goto , Lip-Bu Tan ซีอีโอบริษัท Cadence Design Systems, และ Yuko Kawamoto อาจารย์จากโรงเรียนธุรกิจ Waseda Business School
SoftBank เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในอาลีบาบา โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 25% ของอาลีบาบา และการขาดทุนที่มากที่สุดของ SoftBank ส่วนใหญ่มาจากการลงทุนที่ไม่ดีในบริษัทอย่าง WeWork และUber รวมถึงผลจากการแพร่ระบาดของโรคโคโรนาไวรัส
SoftBank เป็นผู้เล่นบล็อกเชนรายใหญ่
SoftBank และผู้บริหารของบริษัทข้ามชาติในญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความร่วมมือและความคิดริเริ่มที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชน รวมถึงการลงทุนใน Bitcoin ( BTC ) โดยในช่วงปลายปี 2019 SoftBank ได้เปิดตัวบัตรเดบิตที่มีกระเป๋าเงินดิจิตอลในตัว นอกจากนี้ SoftBank ยังSoftBank เข้าร่วมกับการนำ cross-carrier blockchain telecom payments มาใช้ร่วมกับ IBM และ TBCASoft
Masayoshi Son ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ SoftBank เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการลงทุน Bitcoin โดยมีรายงานว่า Son ลงทุนใน Bitcoin เมื่อราคาอยู่ในจุดสูงสุดตลอดกาลเมื่อปลายปี 2017 และต่อมามหาเศรษฐีก็ขาดทุนไปกว่า $130 ล้าน จากการลงทุน Bitcoin ของเขา
ที่มา : LINK