ราคา Bitcoin ( BTC ) มีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งถึง $9,887 โดยนับตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม ราคาก็เพิ่มขึ้นมากกว่า $6,000 ภายในช่วงสองเดือน การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้มีสาเหตุมาจากความคาดหวังเรื่อง Halving ในวันที่ 12 พฤษภาคม
การ Halving จะยังคงเป็นหัวข้อหลักเกี่ยวกับแนวโน้มราคา Bitcoin ไปตลอดในอีกสองปีข้างหน้า เนื่องจากมันมีผลกระทบโดยตรงต่อ supply ของ BTC ที่จะลดลง และทำให้ supply ในตลาดลดลงด้วย
ในขณะที่ในระยะยาวนั้น ผลของการ Halving นั้นจะส่งผลดีต่อราคา Bitcoin อย่างแน่นอน แต่นักวิเคราะห์ก็ได้มีการคาดการณ์ถึงปัจจัยหลัก 3 ประการที่จะทำให้ราคาร่วงลงในไม่ช้า หลังจากการ Halving ผ่านไป
Bitcoin นั้น overbought
Relative Strength Index (RSI) ในกราฟ day ค่า RSI วนเวียนอยู่ที่ 79 ซึ่งการที่มันสูงกว่า 75 นั่นหมายความว่ามัน overbought และหากต่ำกว่า 30 นั้นถือว่า oversold
ครั้งล่าสุดที่ RSI สูงที่สุดคือ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ เมื่อราคา BTC อยู่ที่ 10,100 ดอลลาร์ โดยในเวลานั้น BTC เพิ่มขึ้นสูงถึง $10,500 แต่ในที่สุดก็ตกลงมาที่ $8,000 ภายในหนึ่งเดือน
ในวันที่ 12 มีนาคม 33 วันหลังจาก RSI ของ BTC พุ่งขึ้น 75% ราคา Bitcoin ลดลงต่ำสุดที่ 3,600 ดอลลาร์
การเปรียบเทียบกับ Halving ครั้งก่อน
หลังจาก Bitcoin ผ่าน Halving ครั้งที่สองในปี 2016 ราคาก็ลดลงทันที และนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า Halving ครั้งนี้ก็จะเกิดขึ้นในทำนองเดียวกัน
sell-the-news เป็นเหตุการณ์ที่มักเกิดขึ้นในตลาด cryptocurrency โดยเฉพาะเมื่อนักลงทุนที่มีเลเวอเรจสูง ๆ ถูกบังคับให้ลด positions ของพวกเขา
Logan Han ผู้จัดการกองทุนป้องกันความเสี่ยงและนักลงทุน cryptocurrency แนะนำว่า ราคา Bitcoin มีแนวโน้มที่จะถูกเทขายออกหลังจาก Halving
ทางด้าน Satoshi Flipper นักวิเคราะห์ คาดว่า BTC อาจลงมาเทสในช่วง 8,000 ดอลลาร์ หลังจาก Halving โดยอาจอยู่ในระดับ $7,000 ถึง $8,000 ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะสอดคล้องกับ price cycles ของ Bitcoin ก่อนหน้าในปี 2012 และ 2016 ในช่วง halvings ครั้งแรกและครั้งที่สอง
การลดลงของตลาดหุ้นอาจทำให้ราคา Bitcoin ร่วง
ตลาดหุ้นสหรัฐแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากสหรัฐฯ , สเปนและอิตาลีเตรียมที่จะกลับมาเปิดเศรษฐกิจครั้งใหม่
ในการสัมภาษณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้กับ ABC ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ยืนยันการตัดสินใจของเขาที่จะเปิดสหรัฐอเมริกาอีกครั้งโดยเร็วที่สุด โดยอาศัย social distancing เพื่อลดการแพร่กระจายของ COVID-19
ซึ่งก็คล้ายกับตลาด cryptocurrency โดยมีความเป็นไปได้สูงที่ตลาดหุ้นจะถูกเทขายเมื่อมีการกลับมาเปิดเศรษฐกิจใหม่
โดยปัจจุบัน นักลงทุน และมหาเศรษฐีจำนวนมากยังคงถือเงินสดและ hedge positions แม้จะมีการฟื้นตัวของตลาดหุ้นล่าสุด สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นในการฟื้นตัวของตลาดโดยรวมยังค่อนข้างต่ำ
การชะลอตัวของตลาดหุ้นในระยะสั้นจากผลประกอบการในไตรมาส 2 ที่ไม่ดี , การเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่ลดลงและการต่อสู้ของกลุ่มบริษัทใหญ่ ๆ อาจเพิ่มแรงเทขายในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงเช่นหุ้นและ Bitcoin
อ้างอิง : LINK
