ในขณะที่การระบาดของ COVID-19 ยังคงดำเนินต่อไป พร้อม ๆ กับการส่งผลกระทบร้ายแรงไปทั่วโลก รัฐบาลในหลายประเทศจำเป็นต้องออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้เศรษฐกิจยังไปต่อได้ ตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดคือสหรัฐอเมริกา ที่เพิ่งประกาศใช้มาตรการ QE แบบไม่จำกัด หรือ “Unlimited QE” และยังบรรลุข้อตกลงสำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์
Unlimited QE นั้นจะนำมาซึ่งการซื้อสินทรัพย์ของ Federal Reserve ที่จะรับซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯในวงเงินไม่จำกัด จากเดิมที่กำหนดไว้ที่ 700,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสัปดาห์นี้ Fed จะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ วงเงิน 3.75 แสนล้านดอลลาร์ และ MBS วงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์
ขณะที่ราคา Bitcoin ยังคงรักษาระดับอยู่ที่ประมาณ $6,600 – $6,700 ตลอดทั้งวัน
ทองคำและ silver ก็ฟื้นตัวเช่นกันหลังจากขาดทุนมาหลายวัน โดยราคาทองคำปรับตัวลดลงมากกว่า 12% ใน 10 วัน แต่ก็ฟื้นกลับคืนสู่ระดับราคา $1,620 – $1,680 ระหว่างวันที่ 20 กุมภาพันธ์ถึง 9 มีนาคม
ทางด้าน silver แตะระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ แต่ในช่วงที่ FED พิมพ์เงินหลายพันล้านดอลลาร์ ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา silver ก็มีกำไรเล็กน้อย โดยพิ่มขึ้นจาก $12 เป็น $14.5
ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้จ่ายเงินหลายพันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ ก็ดูเหมือนตลาดหุ้นจะตอบสนองในเชิงบวก โดย S&P 500 ปรับตัวขึ้นมากกว่า 9% ในวันที่ 24 มีนาคม แต่ในระยะยาวนโยบาย QE ก็อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจในอนาคต
และอย่าลืมว่าตลาดในตอนนี้ยังคงอยู่ในความไม่แน่นอน เนื่องจาก COVID-19 นั้นยังระบาดอย่างหนักจนน่าตกใจ โดยเมื่อวานนี้ในสหรัฐอเมริกาจำนวนผู้ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อเพิ่มขึ้น 10,270 ราย รวมแล้วเป็น 54,453 ราย ซึ่งหากนังเพิ่มขึ้นในอัตรานี้คาดว่าสหรัฐอเมริกาอาจจะแซงหน้าจีนในไม่ช้า
สำหรับราคา Bitcoin นั้นแสดงให้เห็นถึงเสถียรภาพ และดูเหมือนว่า Bitcoin จะยังคงเป็นของตัวเองต่อไปเนื่องจากมันไม่ได้เคลื่อนไหวตามสินทรัพย์อื่นมากนัก แต่สิ่งที่ต้องระวังในวันนี้ก็คือการปรับค่าความยากในการขุดหรือ Difficulty ในวันนี้ที่อาจทำให้ Bitcoin สูญเสียมูลค่าลงได้
นักลงทุนกำลังมองหา Safe-haven
นักลงทุนหลายคนต้องประหลาดใจ เมื่อพบว่าราคาทองคำร่วงลงตามตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ซึ่งถือเป็นช่วงที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2008 อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับทองคำหรือ silver
ในปี 2008 สินทรัพย์ที่เป็น Safe-haven นั้นมีพฤติกรรมในทำนองเดียวกันกับในตอนนี้ โดยราคาลดลงควบคู่ไปกับตลาดหุ้น และฟื้นกลับมาหลังจาก FED ประกาศใช้มาตรการ QE
อย่างไรก็ตาม จากการล่มสลายของระบบการเงินโลกในปัจจุบันได้แสดงให้เห็นว่า ทองคำก็มีจุดอ่อนเช่นกัน โดยเมื่อวันที่ 23 มีนาคม โรงหลอมทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก 3 แห่งประกาศว่าพวกเขาจะหยุดการผลิตอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ เพื่อปฏิบัติตามคำร้องขอของหน่วยงานในท้องถิ่น ซึ่งสิ่งนี้จะมีผลต่อราคาอย่างไร ?
ในทางกลับกัน Bitcoin ทำงานบนระบบ decentralized เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์ใด ๆ มาเปลี่ยนแปลงการผลิตได้ แตกต่างจากโลหะมีค่าต่าง ๆ ระบบ Bitcoin ช่วยให้นักขุดเข้าร่วมหรือเดินออกไปจากเครือข่ายโดยไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณการขุด Bitcoin อย่างรุนแรง
รวมถึง Bitcoin นั้นมี Halving ซึ่งหมายความว่า supply จะเพิ่มขึ้นน้อยกว่า 2% ต่อปี และจะลดลงจนเหลือน้อยกว่า 1% หลังจากปี 2024 ซึ่งเป็นอัตราที่ใกล้เคียงกับอัตราเฉลี่ยของการเพิ่มขึ้นของ supply ของทองคำ
ในขณะที่ FED พิมพ์เงินดอลลาร์อย่างไม่จำกัด Bitcoin ก็กำลังอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญที่จะกลายเป็น store of value ที่ดีที่สุด และไม่ได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19 และ halving ที่กำลังจะมาถึง
ที่มา : LINK