World Economic Forum (WEF) ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศ ได้มีการพัฒนากรอบและเครื่องมือสำหรับสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) เป็นครั้งแรก
กรอบดังกล่าวมีชื่อว่า “CBDC Policy‑Maker Toolkit” โดยจะช่วยให้คำแนะนำสำหรับธนาคารกลางทั่วโลก เพื่อให้พวกเขาได้ตัดสินใจว่า Cbdc นั้นเหมาะสมสำหรับพวกเขาหรือไม่ และสำหรับผู้ที่กำลังค้นคว้าอยู่แล้วก็จะช่วยให้พวกเขา “ก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว” WEF กล่าว
การดำเนินการเกี่ยวกับ CBDC ใด ๆ จะมี “ผลกระทบอย่างลึกซึ้งทั้งในและต่างประเทศ” Sheila Warren หัวหน้าฝ่ายบล็อกเชนและเทคโนโลยีของ WEF กล่าว “มีความจำเป็นที่ธนาคารกลางจะต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง ด้วยการวิเคราะห์โอกาสและความท้าทายอย่างเข้มงวด”
กรอบดังกล่าวมีทั้งหมด 28 หน้า โดยจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับ retail, wholesale, การชำระเงินข้ามพรมแดน และ “hybrid” CBDC สำหรับประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศพัฒนาแล้ว โดยได้รับการพัฒนาจาก WEF ในความร่วมมือกับธนาคารกลางกว่า 40 แห่ง และนักวิจัยเชิงวิชาการและสถาบันการเงินอื่น ๆ
นอกจากนั้นจะช่วยอธิบายขั้นตอนการประเมินผลทีละขั้นตอนสำหรับ CBDC รวมถึงประโยชน์และความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น
ตัวอย่างเช่น ในกรณีของ wholesale CBDC ภายในประเทศ WEF กล่าวว่า มีศักยภาพในการลดต้นทุนสำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดนแต่อาจไม่เพิ่มคุณค่าให้กับประเทศที่มีระบบที่มี “มีประสิทธิภาพ” อยู่แล้ว
ในทำนองเดียวกัน retail CBDC สามารถลดค่าใช้จ่ายและข้อจำกัดที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเงินสด แต่ก็ต้องการการลงทุน “อย่างมาก” ในระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์
อย่างไรก็ตาม WEF กล่าวว่าไม่ได้สนับสนุนหรือต่อต้านการดำเนินงานของ CBDC ในประเทศใด ๆ เนื่องจากต้องการช่วยให้ธนาคารกลางเพิ่มความ “มั่นใจ” ว่า CBDC เหมาะสมกับเศรษฐกิจของพวกเขาหรือไม่เท่านั้น
“เราจะนำร่องด้วยชุดเครื่องมือใหม่ที่ได้รับการพัฒนาโดย World Economic Forum” Rasheed M. Al Maraj ผู้ว่าการธนาคารกลางบาห์เรนกล่าว “เราหวังว่ามันจะเป็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้ เติบโตและปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงในการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่”
ทางด้านคุณ วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่าด้วยเครื่องมือนี้จะช่วย “จัดเตรียมกรอบการทำงานที่เป็นประโยชน์สำหรับการปรับใช้ CBDC”
ก่อนหน้านี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย ก็เพิ่งแถลงข่าวก้าวต่อไปของ Inthanon-LionRock ซึ่งเป็นเป็นโครงการทดสอบระบบต้นแบบการโอนเงินระหว่างประเทศโดยใช้สกุลเงินดิจิทัลจำลองที่ออกโดยธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currency: CBDC) ซึ่งธนาคารกลางฮ่องกง (HKMA) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ที่มา : LINK