BTC Spot ETF เป็นประเด็นร้อนในอุตสาหกรรมคริปโตฯ มาโดยตลอด ซึ่งอันที่จริง ก็ไม่ได้เป็นประเด็นใหม่สำหรับปีนี้เท่าไหร่นัก เนื่องจากมีข่าวเกี่ยวกับการอนุมัติ BTC ETF มาตั้งแต่ปี 2023 แล้ว
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (Securities and Exchange Commission: SEC) ก็ยังคงไม่ชัดเจน
แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ เราสังเกตเห็นว่า Franklin, Nasdaq และ Hashdex ได้ยื่นจดทะเบียนเพื่อดำเนินการ Spot ETF สำหรับคริปโตเคอร์เรนซีและ Ethereum Spot ETF คำถามต่อมาคือ การอนุมัติ BTC Spot ETF จะไม่ใช่ว่า SEC “จะอนุมัติหรือไม่” แต่เป็น “จะอนุมัติเมื่อไร” แทน และในบทความนี้ จะเป็นการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจาก BTC Spot ETF ในตลาด
Ryan Lee หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Bitget Research แสดงความคิดเห็นและวิเคราะห์การอนุมัติ BTC ETF และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 10 มกราคม “เมื่อเปรียบเทียบกับ Spot ETF แล้ว ทองคำ ณ เดือนธันวาคม 2023 สินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ของ ETF ทองคำ มีมูลค่าสูงถึงประมาณ 2.09 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยครึ่งหนึ่งของ AUM อยู่ในอเมริกาเหนือ
ปัจจุบัน ความผันผวนของ BTC อยู่ที่ประมาณ 3.6 เท่าของทองคำ หาก BTC Spot ETF ได้รับการอนุมัติและสมมติว่ายักษ์ใหญ่ในวงการการเงินเหล่านี้ต้องการลงทุนใน BTC ด้วยระดับความเสี่ยงพอ ๆ กับทองคำ ก็จะต้องลงทุนประมาณ 3-4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ”
Ryan กล่าว
“ในทำนองเดียวกัน เมื่อมองย้อนกลับไปถึงผลกระทบของ ETF ทองคำในตลาด จะเห็นว่า ETF ที่มีทองคำอ้างอิงกองแรกที่เปิดตัวในสหรัฐอเมริกาคือ SPDR Gold Trust ซึ่งเปิดตัวใน NYSE เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2004 โดยในวันดังกล่าวราคาทองคำปิดที่ $444.3 ต่อออนซ์
การที่สถาบันต่าง ๆ สามารถลงทุน (Exposure) ในทองคำผ่านการซื้อ ETF ได้ ก็ทำให้มีเงินทุนไหลเข้า ส่งผลให้ราคา Spot ทองคำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยแตะระดับ $1,666 ต่อออนซ์ได้ในปี 2012” หากมองตามนี้ เราจะเห็นได้ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ETF ทองคำอาจเกิดขึ้นกับ BTC ETF ได้เช่นกัน หากได้รับการอนุมัติจาก SEC
การยอมรับและโอกาสการทำกำไรจากการกำกับดูแล
เมื่อ SEC อนุมัติ BTC Spot ETF แล้ว มีการคาดการณ์ว่า สถาบันการเงินในภูมิภาคอื่น ๆ จะยื่นดำเนินธุรกิจในลักษณะเดียวกันในสหรัฐอเมริกา เพื่อป้องกันไม่ให้สถาบันการเงินขนาดใหญ่และขนาดกลางโอนเงินทุนออกจากภูมิภาค
ศูนย์กลางทางการเงินแห่งอื่น ๆ เช่น ลอนดอน ฮ่องกง สิงคโปร์ และโตเกียว ก็คาดว่าจะมีการจัดทำนโยบายที่เกี่ยวข้องกับ BTC Spot ETF ด้วย ซึ่งจะนำไปสู่การนำคริปโตเคอร์เรนซีมาใช้งานอย่างกว้างขวางทั่วโลกได้นั่นเอง
นอกจากนี้ เป็นไปได้ว่าจะมีการขยายคำจำกัดความของคริปโตเคอร์เรนซีออกไปให้ไกลกว่า BTC เพื่อให้ครอบคลุม ETH, Stablecoin และโทเค็นอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นเข้าใจถึงความสำคัญของคริปโตเคอร์เรนซี
สถานการณ์ตลาดวันที่ 10 มกราคม หลังอนุมัติ BTC Spot ETF
Bitcoin ในวันที่ 10 มกราคมอาจมีราคาปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ระดับประมาณ $48,000 ถึง $50,000 จากการอนุมัติ Spot ETF ด้านสภาวะตลาด คาดว่าจะได้รับอิทธิพลจากการรับรู้และการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ ETF ดังกล่าว หาก ETF ได้รับการอนุมัติ ก็อาจกระตุ้นความต้องการของตลาดอย่างมีนัยสำคัญได้ ซึ่งจะผลักดันให้ราคา Bitcoin มีเทรนด์ขาขึ้น
อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตจะได้รับผลกระทบจากการไหลเข้าของเงินทุนเพิ่มเติมเข้าสู่ Bitcoin ETF ด้วยเช่นกัน การมีเงินทุนเข้ามามากหรือน้อยนั้นจะมีบทบาทสำคัญต่อความเชื่อมั่นของตลาด และความผันผวนของราคา โดยจะเป็นตัวกำหนดว่าราคา Bitcoin จะยังคงเพิ่มขึ้นหรือจะปรับตัวลดลง
เหตุการณ์นี้อาจกระตุ้นให้เกิดความผันผวนของตลาดอย่างรุนแรง และนักลงทุนควรติดตามปฏิกิริยาของตลาดหลังการอนุมัติ ETF อย่างใกล้ชิด รวมถึงติดตามการไหลของเงินทุน เพื่อกำหนดกลยุทธ์การลงทุนให้ดียิ่งขึ้น