ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ ทำให้ประเทศในละตินอเมริกา (LATAM) กำลังประสบปัญหาการฟอกเงินผ่านทาง cryptocurrencies มากขึ้น รายงานจาก IntSights เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์
Cryptocurrencies เช่น Bitcoin ( BTC ) ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญของกลุ่มอาชญากรรมและแฮ็กเกอร์ในประเทศแถบละตินอเมริกา (LATAM) จากรายงานเรื่อง “The Dark Side of Latin America” อ้างว่าประเทศในแถบนี้ติดอันดับต้น ๆ ของประเทศที่มีการฟอกเงินที่เลวร้ายที่สุดในโลก รวมถึงเว็บเทรด Crypto ในประเทศแถบนี้ก็บกพร่องในเรื่องของกฎ Know Your Customer (KYC) และ Anti-Money Laundering (AML)
จากการศึกษาพบว่าภัยคุกคามทางการเงินกำลังเพิ่มสูงขึ้นในประเทศแถบละตินอเมริกา เนื่องจากอาชญากรในภูมิภาคนี้หันมาใช้สกุลเงินดิจิตอลเพื่อฟอกเงิน โดยมีการใช้ประโยชน์จากการที่เว็บเทรดขาดกฎระเบียบการ KYC และ AML ที่ดี รวมถึงมีการใช้งานการซื้อขายแบบ peer-to-peer (P2P) เช่น LocalBitcoins อีกด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง IntSights อ้างว่าเงินก้อนใหญ่ที่มาจากการกระทำที่ผิดกฎหมายส่วนใหญ่ มีแนวโน้มที่จะมาจบลงในเว็บเทรด crypto ในละตินอเมริกา ซึ่งมีกฎระเบียบที่”หละหลวมมาก” : “นักวิจัยคาดการณ์ว่า cryptocurrencies ของอาชญากรส่วนใหญ่มักจะมาฟอกเงินกันในเว็บเทร ซึ่ง 97% อยู่ในประเทศที่ขาดกฎระเบียบ KYC / AML ที่เข้มงวด โดยมีละตินอเมริกาติดอันดับสูงสุด”
IntSights ยังได้อ้างถึงกรณีการฟอกเงินครั้งใหญ่ของ บริษัท Crypto Capital ซึ่งเป็นผู้ให้บริการการชำระเงินในปานามา ซึ่งเกี่ยวข้องกบการฟอกเงินไม่น้อยกว่า 350 ล้านดอลลาร์ ซึ่ง Ivan Manuel Molina Lee ซีอีโอของ Crypto Capital ถูกจับกุมได้เมื่อเดือนตุลาคม 2019 โดยเงินกว่า 350 ล้านดอลลาร์นั้นเชื่อมโยงโดยตรงกับการฟอกเงินของกลุ่มค้ายาเสพติดในโคลอมเบียโดยผ่านทาง cryptocurrency
IntSights ยังระบุว่า แพลตฟอร์ม P2P เช่น LocalBitcoins ขาดกฎระเบียบที่สำคัญของการฟอกเงินด้วยเช่นกัน “ผู้ให้บริการ P2P มักขาดกฎ AML และมีการตรวจสอบ KYC เพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย ซึ่งทำให้ผู้กระทำความผิดทางอาญาใช้ประโยชน์ทั้งจากแพลตฟอร์ม P2P และเว็บเทรด cryptocurrency แบบปกติ”
ที่มา : LINK