Brian Armstrong CEO Coinbase ออกมาวิพากษ์วิจารณ์หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ ซึ่งแม้ว่าบริษัทจะพยายามขอความชัดเจนจากหน่วยงานกำกับดูแล แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ “คดีความ”
ในการสัมภาษณ์พิเศษกับ Decrypt ทาง Armstrong กล่าวว่า Coinbase ได้พบกับ ก.ล.ต.สหรัฐฯ 30 ครั้งในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา “เรายังไม่ได้รับการตอบรับใด ๆ จากพวกเขาเกี่ยวกับสินทรัพย์ที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นหลักทรัพย์ และพวกเขาเชื่อว่ามีเพียง Bitcoin ที่ไม่ใช่
Armstrong อ้างถึง “ข้อโต้แย้งทางกฎหมายที่รุนแรง” และความคิดเห็นทางกฎหมายเกี่ยวกับสินทรัพย์ที่ลิสต์บนแพลตฟอร์ม โดยกล่าวว่า Coinbase ได้ขอให้คณะกรรมการ ก.ล.ต.สหรัฐฯ ให้ข้อเสนอแนะหลายต่อหลายครั้งตลอดการประชุมเหล่านั้น ซึ่งสุดท้ายก็ไม่มีประโยชน์
“เราไม่ได้รับข้อเสนอแนะใด ๆ ….. และทั้งหมดที่เราได้รับกลับมาคือคำเตือนและคดีความ”
Coinbase ได้รับคำเตือนในเดือนมีนาคม โดยเป็นจดหมายจากสำนักงาน ก.ล.ต.สหรัฐฯ ที่แจ้งให้ทราบว่าคณะกรรมาธิการตั้งใจที่จะดำเนินคดี และต่อก็มาก็มีการดำเนินคดีจริง ๆ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน
ก.ล.ต.สหรัฐฯ ฟ้อง Coinbase จากการเป็นเว็บเทรดหลักทรัพย์ที่ไม่มีใบอนุญาต และระบุว่ามีสินทรัพย์ crypto หลายรายการบน Coinbase ที่เป็นหลักทรัพย์ที่ไม่มีใบอนุญาตภายใต้กฎหมายของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ รวมถึง Solana, Polygon และ Cardano
ด้าน Coinbase ก็ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าโทเค็นเหล่านั้นไม่มีคุณสมบัติเป็นหลักทรัพย์ภายใต้เกณฑ์ที่เรียกว่า “สัญญาการลงทุน”
“ก.ล.ต.สหรัฐฯ และ Commodity Futures Trading Commission (CFTC) กำลังสร้างความท้าทายด้านกฎระเบียบสำหรับบริษัท crypto ทั้งหมด” Armstrong กล่าว โดยเขาเปรียบเทียบสถานการณ์ในสหรัฐฯ กับอังกฤษ ซึ่งสัปดาห์นี้เขาได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดการลงทุนของรัฐบาล
“หน่วยงานกำกับดูแลของอังกฤษมีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิผลกับเราที่นั่น” เขากล่าว “เป็นเรื่องดีจริง ๆ ที่มีหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลเพียงแห่งเดียวสำหรับทั้งสินค้าโภคภัณฑ์และหลักทรัพย์ เพราะพวกเขาไม่มีปัญหาแบบที่เรามีในสหรัฐอเมริกา ซึ่งบางครั้ง CFTC และ ก.ล.ต.สหรัฐฯ ก็ทำสงครามแย่งชิงกันเล็กน้อยว่าใครควรเป็นผู้ควบคุมสินทรัพย์ใด”
“สิ่งสำคัญอันดับหนึ่งที่เรามองหาในแง่ของการขยายธุรกิจและการลงทุนในต่างประเทศก็คือความชัดเจนด้านกฎระเบียบ”
อ้างอิง : decrypt.co