แฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือ ยังคงคุกคามระบบนิเวศของ Crypto ในวงกว้าง โดยขโมยเงินดิจิทัลไปได้ประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา
TRM Labs บริษัทข่าวกรองบล็อกเชน เปิดตัวข้อมูลการเจาะลึกล่าสุดของการแฮ็คที่เกี่ยวข้องกับ cryptocurrency โดยมุ่งเน้นไปที่อาชญากรไซเบอร์ชาวเกาหลีเหนือ ซึ่งจากข้อมูลของ TRM Labs พบว่า เกาหลีเหนือได้ขโมยเงินดิจิทัลไปประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ในปี 2023 ซึ่งคิดเป็น 20% ของเงินที่ถูกขโมยทั้งหมดในปีนี้
การโจมตีทางไซเบอร์ของเกาหลีเหนือ คาดว่าจะมีขนาดใหญ่กว่าการโจมตีโดยแฮ็กเกอร์รายอื่นถึง 10 เท่า โดยแฮ็กเกอร์จากประเทศนี้ยังมุ่งเน้นไปที่ระบบนิเวศการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) โดยจะชอบล่าเหยื่อบน cross-chain bridges ที่รองรับการถ่ายโอน cryptocurrency ในปริมาณมาก
การแฮ็ก Cross-chain bridges เช่น การแฮ็ก Axie Infinity Ronin Bridge ส่งผลให้ crypto ถูกขโมยไป 650 ล้านดอลลาร์ โดยแฮ็กเกอร์ชาวเกาหลีเหนือร่วมกันขโมยเงินไปประมาณ 800 ล้านดอลลาร์ในการโจมตี 3 ครั้งในปี 2022 เพียงปีเดียว
TRM Labs ตั้งข้อสังเกตว่า แฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือมีความพยายามใช้วิธีการฟอกเงินแบบ on-chain โดยในอดีตเว็บเทรด cryptocurrency มักถูกนำมาใช้เพื่อถอนเงิน cryptocurrency ที่ขโมยมาได้ แต่สิ่งนี้ได้พัฒนาไปเป็น “กระบวนการฟอกเงินแบบหลายขั้นตอน” ที่มีความซับซ้อนสูง
โดยแฮ็กเกอร์ได้พัฒนาวิธีการของตน หลังจากมีการเพิ่มบทลงโทษที่รุนแรงมากขึ้นโดยสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ , การดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย , และเครื่องมือการติดตามบล็อกเชนที่ได้รับการพัฒนามากขึ้น โดย TRM Labs เผยว่าการแฮ็ก Atomic Wallet ของเกาหลีเหนือในปี 2023 เป็นตัวอย่างของวิธีการสร้างความสับสนของแฮ็กเกอร์จากประเทศที่ถูกคว่ำบาตร
อ้างอิง : cointelegraph
ภาพ scroll