ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ได้เผยแพร่รายงานระบบการชำระเงินและการชำระเงินประจำปี 2022 ซึ่งการควบคุมดูแลระบบดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย โดยรายงานเผยว่ากำลังเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตด้วยสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) และกำลังหารือเกี่ยวกับกฎระเบียบของ Stablecoin ในวงกว้าง
ระบบการชำระเงินด่วน BOK-Wire+ จะได้รับการอัปเกรดเป็น real-time gross settlement (RTGS) และได้นำมาตรฐาน ISO 20022 มาใช้ ซึ่งคาดว่าจะนำมาใช้ในปี 2028 โดยธนาคารจะเพิ่มการกำกับดูแลบริการชำระเงิน “Big Tech” และเพิ่มขีดความสามารถในการตอบสนองต่อ “ความเสี่ยงด้านปฏิบัติการด้านไอที”
BOK ยังคงเตรียมการอย่างต่อเนื่องสำหรับการเปิดตัว CBDC ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบการใช้ smart contracts , การชำระเงินออฟไลน์ด้วยการสื่อสารระยะใกล้ , และการชำระเงินข้ามพรมแดน ซึ่งธนาคารได้เชื่อมต่อธนาคาร 14 แห่งและสถาบันโทรคมนาคมและ Korea Financial Telecommunications and Clearings Institute (KFTCI) กับระบบ CBDC จำลองในช่วงครึ่งหลังของปีเพื่อตรวจสอบการทำงาน
“In line with these international trends, future Korean regulations for cryptoassets could also include a separate set of rules for stablecoins.
— Joshua Rosenberg (@_jrosenberg) July 19, 2023
More stringent rules must be applied to issuers of stablecoins and related service providers regarding entry regulations, such as… pic.twitter.com/czbhJAvqaY
ระบบสามารถจัดการธุรกรรมได้ 2,000 รายการต่อวินาที ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าระบบการชำระเงินในประเทศส่วนใหญ่ แต่ก็ชะลอตัวลงเมื่อถึงขีดจำกัด จึงจำเป็นต้องมีการปรับปรุงเพิ่มเติม
BOK จะเพิ่มการวิจัย CBDC โดยระบุว่า “จุดสนใจหลักของการวิจัยของ BOK คือการระบุรูปแบบการดำเนินงานของ CBDC ที่มีผลกระทบในทางลบน้อยที่สุดต่อเสถียรภาพของระบบการเงินและประสิทธิผลของนโยบายการเงิน”
รายงานยังระบุความคืบหน้า “ที่เป็นรูปธรรม” ในการควบคุมสินทรัพย์ crypto ในประเทศด้วยการเปิดตัว Framework Act on Digital Assets Act แต่กรอบการกำกับดูแลยังคงไม่สมบูรณ์ที่จะอนุญาตให้ชำระเงินใน cryptocurrencies โดยธนาคารยังมีส่วนร่วมในการอภิปรายเกี่ยวกับ Stablecoin อีกด้วย
อ้างอิง : cointelegraph
ภาพ centralbanking