ผู้พิพากษาชาวแคนาดาตัดสินว่า อีโมจิ “กดไลก์” ที่เป็นการยกนิ้วโป้งที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย สามารถยืนยันว่าบุคคลนั้นทำสัญญาถูกต้องตามกฎหมาย
ตามรายงานจาก New York Times ผู้พิพากษา TJ Keene กล่าวว่า คำตัดสินดังกล่าวสะท้อนถึง “ความเป็นจริงใหม่ในสังคมแคนาดา” เนื่องจากผู้คนจำนวนมากหันมาใช้อีโมจิเพื่อแสดงตัวตนในสถานการณ์ต่าง ๆ รวมถึงการติดต่อทางธุรกิจ
คดีในศาลแคนาดาดังกล่าว เป็นการตัดสินว่า “คริส อัคเตอร์” เกษตรกร ตกลงที่จะขายต้นแฟลกซ์จำนวนมากให้กับผู้ซื้อธัญพืชในปี 2021 หรือไม่ ซึ่งตามรายงาน ผู้ซื้อได้ส่งสัญญาการซื้อให้กับเกษตรกรและเขียนว่า “โปรดยืนยันสัญญาการขายต้นแฟลกซ์”
คริส อัคเตอร์ ได้ส่งอิโมจิยกนิ้วโป้งหรือ “กดไลก์” เป็นการตอบกลับผู้ซื้อ ทำให้ผู้ซื้อเข้าใจว่าคริส “ตกลงในสัญญา” และอีโมจิดังกล่าวเป็น “วิธีการยอมรับของเขา” ในทางกลับกัน คริส อัคเตอร์ แย้งว่าการส่งอิโมจิเป็นเพียงการยืนยันว่าเขา “ได้รับสัญญาแฟลกซ์แล้ว”
ผู้พิพากษาตั้งข้อสังเกตว่า เกษตรกรและผู้ซื้อมีความสัมพันธ์ทางการค้าที่ยาวนาน และเกษตรกรก็ได้ตอบข้อตกลงการขายก่อนหน้านี้ด้วยข้อความเช่น “ดูดี”, “โอเค” หรือ “ใช่” ในการตัดสินใจ ซึ่งในที่สุด ผู้พิพากษาก็อ้างถึงคำจำกัดความของอิโมจิยกนิ้วโป้งบน dictionary.com ว่า “ใช้เพื่อแสดงความยินยอม , อนุมัติ , หรือให้กำลังใจในการสื่อสารดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัฒนธรรมตะวันตก”
ทางด้าน Eric Goldman ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายแห่งคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยซานตาคลารา บอกกับ New York Times ว่า แม้จะมีการตัดสินของศาลไปแล้ว แต่ความหมายของอีโมจิชูนิ้วโป้งเหมือนเป็นคำถามปลายเปิด ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี โดยอาจารย์ตั้งข้อสังเกตว่า คนหนุ่มสาวสมัยนี้บางคนก็อาจใช้อิโมจิในลักษณะประชดประชันหรือหลอกลวง ในขณะที่บางคนอาจใช้เพื่อยืนยันว่าได้รับข้อความ ซึ่งท่าทางดังกล่าวอาจสร้างความไม่พอใจในบางประเทศในตะวันออกกลางด้วย